จบด้วยดี 'เจ๊ไฝ' ไม่เอาเรื่องป๋า อ้างเป็น ตร.เบ่งกินฟรี เจ้าตัวไหว้ขอโทษ
จบด้วยดี 'เจ๊ไฝ' ไม่เอาเรื่องชายอ้างเป็นสารวัตร แซงคิวกินฟรี บอกเป็นคนไทยด้วยกัน เจ้าตัวอ้างไม่ได้ตั้งใจชักดาบแต่รีบจนลืม ยันไม่ได้อ้างเป็นตำรวจ คาดเข้าใจผิด
1 มี.ค. 2567 จากกรณี เจ๊ไฝ นางสุภินยา จันสุตะ เจ้าของตำนานสตรีตฟู้ดระดับมิชลิน 7 ปีซ้อน โพสต์สตอรี่อินสตราแกรม ระบุว่า "วันนี้มีลูกค้าไม่ยอมต่อคิว อ้างตัวเป็นสารวัตรนอกเครื่องแบบกำลังอยู่ในหน้าที่ขอโต๊ะเลยทานข้าว สั่งห่อ แล้วไม่จ่ายเงิน" โดยหลังเกิดเหตุ ลูกสาว เจ๊ไฝ เข้าแจ้งความ ที่สน.สำราญราษฎร์ แล้ว
ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ เชิญตัวชายที่ปรากฏในภาพวงจรปิดซึ่งถูกระบุในอินสตาแกรม ของ เจ๊ไฝ มาสอบปากคำที่ สน.สำราญราษฎร์ หลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลจนทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็น อดีตข้าราชการท้องถิ่นเกษียณอายุ โดยเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาจากในพื้นที่ใกล้เคียง โดยชายคนดังกล่าว แต่งกายคล้ายกับบุคคลที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ทั้งนี้เจ้าตัวไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชนและเดินขึ้นห้องสืบสวนมาทันที โดยมีสีหน้าเรียบเฉย
หลังจากสอบปากคำประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวชายคนดังกล่าวไปที่ร้านเจ๊ไฝ เพื่อสอบถามเจ๊ไฝว่าจะติดใจเอาความทางคดีอาญากับชายคนดังกล่าวหรือไม่ เมื่อเดินทางไปถึงร้าน และเผชิญหน้ากับ เจ๊ไฝ ชายคนดังกล่าวได้ยกมือไหว้ขอโทษเจ๊ไฝ พร้อมกล่าวว่าไม่ได้ตั้งใจจะชักดาบ และได้จ่ายเงินค่าอาหารมื้อดังกล่าวให้กับเจ๊ไฝ พร้อมทั้งยังออกปากชมด้วยว่ากระเพราเนื้อของเจ๊ไฝอร่อยมาก
นอกจากนี้ ยังได้ยืนยันว่าไม่ได้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่มีการโพสต์ลงในอินสตาแกรม แต่เชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดของลูกสาวเจ๊ไฝ หรืออาจเป็นโต๊ะข้างๆ ที่ได้ยินข้อมูลการสนทนา ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะไม่จ่ายค่าอาหารแต่ตนเองมีปัญหาเรื่องความจำ และอ้างว่าจะต้องรีบออกไปเอารถที่ทำกระจกไว้ในบริเวณใกล้เคียง ก่อนที่จะนึกได้ว่าลืมจ่ายค่าอาหาร จึงตั้งใจว่าจะกลับมาที่ร้านและจ่ายเงินในวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นข่าวตามสื่อต่างๆเสียก่อน จึงพยายามติดต่อเข้ามาที่สนสำราญราษฎร์ให้มารับตัว ยืนยันว่าไม่เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้ที่ร้านอื่นมาก่อน
ด้านเจ๊ไฝ เปิดเผยว่า ไม่ติดใจเอาความทางคดีกับชายคนดังกล่าวโดยให้เลิกแล้วต่อกัน เพราะเป็นคนไทยด้วยกันจึงไม่อยากเอาเรื่อง ที่ผ่านมาเคยมีลูกค้าชาวต่างชาติมากินอาหารและไม่จ่ายเงินแต่ก็ติดต่อไปทางโรงแรมให้มาจ่ายเงินและไม่ได้ติดใจเอาความกับใคร แต่ไม่เคยมีคนไทยทำแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตกใจ และได้ต่อว่าลูกสาวที่ไม่ยอมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตั้งแต่ต้น จนทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต จากนี้จะให้ที่ร้านเพิ่มความเข้มงวดในการเก็บเงินลูกค้ามากขึ้น และได้ขอบคุณผู้กำกับการ สน. สำราญราษฎร์ ที่ช่วยติดตามเรื่องดังกล่าวให้ทันที
ด้าน พ.ต.อ.ทศพล อําไพพิพัฒน์กุล ผู้กำกับการ สน. สำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นคดีความเพราะตัวเจ๊ไฝไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่จะมีการตรวจสอบต่อไปว่าชายคนดังกล่าวเคยก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาก่อนหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายว่าจะเข้าข่ายหรือไม่เพราะในระหว่างเกิดเหตุเจ้าตัวไม่ได้มีการแต่งเครื่องแบบตำรวจหรือแสดงบัตรเอกสารว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจจึงอาจไม่เข้าข่ายที่จะดำเนินคดีได้ แต่หากพบว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดก็จะดำเนินการในภายหลัง