ข่าว

'ปวีณา' พา 2 ด.ญ.วัย 12 จี้คดี เจ้าของค่ายมวยใช้ปืนจี้ 'ล่วงละเมิด' นานร่วมปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี' นำ แม่ ยาย พร้อมด้วย 2 ด.ญ. วัย 12 ขวบ พบตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ติดตามคดี 'เจ้าของค่ายมวย บังคับล่วงละเมิดทางเพศ'

28 ก.พ. 2567 ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย แม่และยายของ 2 เด็กหญิงอายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 เข้าพบ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามคดี นายใหญ่ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของค่ายมวยและเป็นครูฝึกมวยแห่งหนึ่งในจ.สมุทรสาคร และเป็นอดีตตำรวจบ้าน ก่อเหตุข่มขืนกระชำเรา เด็กหญิง 2 ราย  ซึ่งเป็นนักมวยรุ่นเยาว์ในค่ายหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงเดือน ก.พ.2567

 

ซึ่งแม่และยาย 2 เด็กหญิงได้แจ้งความไว้แล้ว ตำรวจส่งเด็กทั้ง 2 ไปตรวจร่างกาย สอบสหวิชาชีพแล้ว ขณะนี้เจ้าของค่ายมวยหนีไป แม่และยายจึงมาร้อง มูลนิธิปวีณาฯ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ได้รับความปลอดภัย  

ปวีณา พา 2 ด.ญ.วัย 12 จี้คดี เจ้าของค่ายมวยใช้ปืนจี้ ล่วงละเมิด นานร่วมปี

 

 

ทั้งนี้ แม่และยาย 2 ครอบครัว พา ด.ญ.เอ และด.ญ.บี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 เดินทางจากจ.สมุทรสาคร เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือติดตามคดี นายใหญ่ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวยและเป็นครูฝึกมวย แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ใช้ปืนข่มขู่บังคับข่มขืนกระชำเราลูกและหลานสาวทั้ง 2 คน 

 

ยายของ ด.ญ.เอ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเลี้ยงหลานสาวมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่เด็กต้องไปทำงาน หลานชื่นชอบการชกมวยมากเพราะจะได้ฝึกป้องกันตัว ซึ่งค่ายมวยของนายใหญ่ ผู้ก่อเหตุ อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ยายจึงให้หลานสาวไปเรียนตั้งแต่ ป.1 อายุ 7 ขวบ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5 ปี ที่ค่ายมวยจะมีเด็กและเยาวชนทั้งชายและหญิงประมาณ 10 กว่าคน เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี จำนวน 3 คน คือ ด.ญ.เอ, ด.ญ.บี, ด.ญ.ซี โดยในช่วงแรก ยายจ่ายค่าเรียนชกมวยให้ครูวันละ 100 บาท พอเด็กเก่งขึ้นครูก็พาไปชกตามที่ต่างๆ ครูไม่เก็บค่าสอน เนื่องจากเวลาได้เงินรางวัลครูก็หักค่าฝึกซ้อมในค่ายมวย ส่วนที่เหลือก็จะให้เด็กบ้างครั้งละประมาณ 400-500 บาท  

 

หลานสาวไปแข่งขันตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ 8-9 ขวบ มีชนะบ้าง แพ้บ้าง และก็ได้เป็นแชมป์หลายรายการ ตอนหลานอายุ 11 ปี และเคยชนะได้ถ้วยรางวัล "นักชกดุเดือด" 

ปวีณา พา 2 ด.ญ.วัย 12 จี้คดี เจ้าของค่ายมวยใช้ปืนจี้ ล่วงละเมิด นานร่วมปี

 


ต่อมาเมื่อ วันที่ 28 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา หลานก็พูดขึ้นมาว่า "หนูอยากตายแล้วไปเกิดใหม่" ทำให้ยายตกใจมากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลานสาว  แต่หลานก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งวันที่ 31 ม.ค.2567 ยายไปรับหลานที่ค่ายมวย ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ครูจ่ายเงินค่าชกมวยให้กับเด็กๆ มี ด.ญ.ซี อายุ 12 ปี ที่ซ้อมมวยรุ่นเดียวกับหลาน วิ่งมาบอกยายว่าทำให้ยายรู้เรื่อง

 

จากนั้นยายจึงได้ถามหลานสาวทำให้ทราบว่า หลานถูก นายใหญ่  เจ้าของค่ายมวยล่วงละเมิดมาตั้งแต่  ช่วงเดือน ก.ย. 2566 เรื่อยมา ล่าสุดช่วงเดือนช่วงเดือน ม.ค.2567 โดยถูกกระทำที่บ้านครูฝึกมวย และที่ห้องพักนักมวย ในค่ายมวยที่ฝึกเวลาที่ไม่มีใครอยู่ เด็กไม่กล้าขัดขืนเพราะก่อนจะลงมือข่มขืนนายใหญ่จะวางปืนไว้ให้เด็กเห็นจนเกิดความกลัว หลังข่มขืนเสร็จนายใหญ่ก็ข่มขู่ว่า “ถ้าไปบอกใครจะยิงมึงให้ตาย”

 

ที่ผ่านมาหลานไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวนายใหญ่ และกลัวจะไม่ได้ชกมวยอีก แต่ทนไม่ไหวจึงนำเรื่องไปคุยกับ ด.ญ.บี และด.ญ.ซี ทำให้รู้ว่าทั้งสองคนก็ถูกนายใหญ่ข่มขืนด้วย 

 

ยาย ด.ญ.เอ กับแม่ ด.ญ.บี จึงตัดสินใจพาเด็กทั้งสองมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี นอกจากนี้ ยาย ด.ญ.เอ กับแม่ ด.ญ.บี ยังทราบว่ามีเด็กหญิงที่เคยฝึกซ้อมมวยที่ค่ายนี้ถูกนายใหญ่ข่มขืนอีกหลายรายแต่ไม่กล้าแจ้งความ 

 


ด้าน นางปวีณา  หงสกุล  ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  กล่าวว่า  ล่าสุดวันนี้ 28 ก.พ. 67 เวลา 11.00 น. ตำรวจได้ออกหมายจับ เจ้าของค่ายมวยและเป็นครูฝึกมวยแล้ว และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมกันนี้ นางปวีณา ได้ฝากเรื่องที่เป็นข้อกังวลใจของยายและแม่เด็กหญิงทั้ง 2 คนกับ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร กรณีถูกลูกสาวเจ้าของค่ายมวยที่ก่อเหตุขู่ฟ้องหากเด็กย้ายไปสังกัดค่ายมวยอื่น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อกฎหมายในสัญญาสังกัดค่ายมวยและพ.ร.บกีฬามวยด้วยว่ากรณีนี้เมื่อมีคดีความแล้วเด็กย้ายไปสังกัดค่ายอื่นจะถูกฟ้องได้หรือไม่

 

พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าพ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 มาตราที่ 31 ระบุว่า ผู้ฝึกสอนผู้ตัดสินและหัวหน้าค่ายมวยต้องไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสียหายหรือนำมาซึ่งความสูญเสียแก่วงการกีฬา ซึ่งหากขาดคุณสมบัติในข้อใดข้อหนึ่งให้นายทะเบียนเพิกถอนทะเบียนได้เลยได้ทันที กรณีนี้จึงถือว่าไม่มีการผิดสัญญาใดๆ วันนี้จะได้ทำบันทึกประจำวันเรื่องดังกล่าวและจะประสานการกีฬาจ.สมุทรสาคร ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อทำการปิดค่ายมวยของผู้ก่อเหตุ ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านมั่นใจทางตำรวจจะเร่งจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ