เครียดถึงขั้นโทรบอกตำรวจ ก่อนตัดสินใจผูกคอตาย จากเหตุ 'ครอบครองปรปักษ์'

วันที่ 26 ก.พ.67 จากกรณี น.ส.ภานุมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีบุกรุก กรณี ครอบครองปรปักษ์ บ้านอากู๋เหมทัศน์ ผูกคอตายในบ้านพัก ท้องที่สน.คันนายาว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ช่วงสายวันเดียวกัน ทนายกุ้ง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ ทีมงานทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ทำคดีให้กับนายซัน หลาน อากู๋เหมทัศน์ เจ้าของบ้านที่ถูกเพื่อนบ้านเข้ามายึดครอง และฟ้อง ครอบครองปรปักษ์ เดินทางมาที่สน.คันนายาว เพื่อให้ข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยทนายกุ้ง กล่าวว่า โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกกล่าวหาในคดี มาขอพูดคุยเจรจายอมรับผิด กับ อากู๋เหมทัศน์ แต่ยังไม่ได้คุย เพราะตอนนั้นยังโกรธเนื่องกลุ่มดังกล่าวเข้ามาบุกรุกบ้านรอบที่2 โดยในวันนั้น น.ส.ภานุมาศ ผู้เสียชีวิต ไม่ได้มาด้วย อย่างไรก็ดีทราบจากตำรวจที่สน.โคกคราม ว่า  เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2567 น.ส.ภานุมาศ โทรไปปรึกษาว่าเครียดในเรื่องคดีบุกรุก ในตอนแรกที่มีการแจ้งความนั้น น.ส.ภานุมาศ ได้มาไกล่เกลี่ยที่ สน.โคกคราม แต่ตกลงเรื่องตัวเลขกันไม่ได้ และเรื่องก็จบไปแล้ว ทั้งนี้เรื่องทั้งหมดขออโหสิกรรมให้ และคิดว่า อากู๋เหมทัศน์ ก็อโหสิกรรมให้เช่นกัน และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ ทนายกุ้ง เปิดเผยว่า คดี บ้าน หลังดังกล่าวที่เกิดขึ้น มี 3 ส่วน คือ คดี ครอบครองปรปักษ์ 1 คดี ที่น.ส.ศรีพรรณ คนเดียว ยื่นฟ้องขอ ครอบครองปรปักษ์ โดยคุณซัน หลาน อากู๋เหมทัศน์ ในฐานะเจ้าของบ้านที่ซื้อมาถูกกฎหมาย ยื่นคัดค้าน และคดีบุกรุก 2 คดี ที่คุณซัน หลาน อากู๋เหมทัศน์ แจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม คดีแรกมีผู้ถูกกล่าวหา 5 คน หนึ่งในนั้นมีชื่อ น.ส.ภานุมาศ รวมอยู่ด้วย และคดีที่สอง มีเพียง น.ส.ศรีพรรณ คนเดียวที่ถูกกล่าวหา คดีนี้ ได้ฟ้องขับไล่ เรียกร้องค่าเสียหาย เป็นค่าเช่า เดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปี อย่างไรก็ดีภายหลังน.ส.ภานุมาศเสียชีวิต ทางกฎหมายก็ต้องจำหน่ายคดีในส่วนของ น.ส.ภานุมาศ ออกไป

ทนายกุ้ง กล่าวถึงประเด็นที่ทนายฝ่ายผู้ตายบอกว่า ใช้สื่อในการกดดัน ตนมองว่า ตอนนี้ในฐานะทนายความก็ทำหน้าที่ทนายความ สื่อก็ทำหน้าที่ของสื่อ การเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงข้อเท็จจริงที่ตนพูดออกไป เพราะตามกฏหมายก็ต้องปกป้องลูกความ ไม่ได้กดดันอะไร