
'คดีมินนี่' สำนวนหลุด – คลิปเสียงหลุด สุดท้ายใครได้ประโยชน์ ?
'คดีมินนี่' จากสำนวนหลุด ถึง คลิปเสียงหลุด พนักงานสอบสวนเกลี้ยกล่อมพยานเข้าให้ปากคำ สุดท้ายใครได้ประโยชน์กันแน่ ?
ทวีองศาร้อนขึ้นทุกขณะ สำหรับ คดีเว็บพนันออนไลน์(มินนี่) หลังเกิดเหตุ สำนวนหลุด ออกสื่อ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.67 ในคดีที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 14 ผู้ต้องหา ในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 8 นาย ส่งให้พนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริตพิจารณา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา โดยระบุชื่อผู้ต้องหาและข้อหาความผิดไว้ละเอียดชัดเจนครบถ้วน
รวมทั้งคดีที่ พนักงานสืบสวนสอบสวน ร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) และกลุ่มตำรวจ รวม 5 นาย ส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาว่าจะสอบสวนคดีนี้เอง หรือส่งกลับมาให้พนักงานสอบสวนตำรวจดำเนินการต่อ โดย ป.ป.ช.รับไปตั้งเเต่ วันที่ 28 ธ.ค.66 เเต่ยังไม่มีคำสั่งกลับมา
ทำไมรายละเอียดใน สำนวนหลุด ออกมาได้ ใครเป็นคนปล่อย ? ใครได้ประโยชน์จากการเปิดเผยรายละเอียดของสำนวน ?
กระทั่งล่าสุด วันที่ 20 ก.พ.67 ปรากฏ คลิปเสียงหลุด ออกสื่อ 2 คลิปเสียง เป็นบทสนทนา ระหว่างบุคคลหนึ่งสันนิษฐานว่าเป็นนายตำรวจ กับ อีกบุคคลหนึ่งสันนิษฐานว่าเป็นตำรวจที่มียศต่ำกว่า โดยมีการพูดคุยเจรจาขอให้มาเป็นพยานในคดี
คลิปเสียงที่ 1
นายตำรวจ : เขาอาจจะถามคำถามต่างๆ เอ็งก็ให้การตามความเป็นจริงไปว่าแบบไหน อะไร อย่างไร
พยาน : ผมโดนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับท่านครับ
นายตำรวจ : อันนี้เขาแจ้งมานะ พี่ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้เห็นสำนวน
พยาน : ครับ ท่านครับ
นายตำรวจ : เพราะว่าเอ็งอยากจะมีส่วนร่วมในตัวเต้นเงิน หรือว่าการโอนตังค์อะไรหรือเปล่า อันนี้พี่ไม่มั่นใจ เอ็งลองพิจารณาดู แต่ถ้าเอ็งตัดสินใจได้เนี่ย เดี๋ยวเอ็งต้องไปหารอง.... ให้เขาสอบปากคำ ต้องรีบไปหน่อย
พยาน : ได้ครับ แล้วทีนี้คือรอง....เขาจะคอยช่วยผมใช่ไหมครับ
นายตำรวจ : ใช่ ใช่ ใช่
พยาน : ถ้างั้นเดี๋ยวผมขอลองปรึกษากับเมียดูก่อนนะครับ ท่านครับ
นายตำรวจ : เออๆ คุยกับเมียนะ คุยกับเมีย เพราะว่าคือพูดแบบนี้ดีกว่า เอ็งเป็นลูกน้อง พี่ก็เคยเป็นลูกน้องมาก่อนพี่เข้าใจ ที่เขาทำตามคำสั่ง รีบๆ นิดหนึ่ง เมื่อกี้เขาโทรมาอยู่ ถ้าได้วันนี้ก็ดี
คลิปเสียงที่2
พยาน : ครับ รองครับ ขออนุญาตครับ
นายตำรวจ : ครับผม
พยาน : ครับๆ สักครู่ครับ
นายตำรวจ : เออ เป็นไงบ้าง
พยาน : ผมยังไม่เจอเมียเลยครับ พอดีผมมาหาหมอครับ เมื่อกี้ตรวจเพิ่งเสร็จ กำลังขับรถออกมาครับ เนี่ยครับ
นายตำรวจ : คือ คืออย่างนี้ ทางคณะเนี่ยเขา เขาจะนัด ตอนประมาณสัก 5 โมงเย็น ในฐานะพยาน ที่ บช.น.
พยาน : วันนี้เหรอครับรอง
นายตำรวจ : วันนี้ๆ
พยาน : วันนี้ ผมมีหาหมอตอน 6 โมง ที่มหิดลนี่ครับ
นายตำรวจ : อ๋อ
พยาน : ใช่ครับ
นายตำรวจ : ป่วยเหรอ ตอนนี้ป่วยเหรอ
พยาน : ใช่ครับ ป่วยอยู่ครับตอนนี้ เครียดเรื่องนี้ครับ ใช่ครับ
นายตำรวจ : เป็นอะไรบ้างตอนนี้
พยาน : ตอนนี้ผมก็ยังเครียดครับ เป็นโรค ตอนนี้หาจิตแพทย์อยู่ครับ ตอนนี้ครับ กำลังรักษา ครับ ใช่ครับ
นายตำรวจ : หาจิตแพทย์ อยู่
พยาน : ใช่ครับ แล้วก็ไปหาหมอ ที่มาอยู่เนี่ย เป็นเครียด แล้วก็นอนกรน กัดฟัน หยุดหายใจอะไรแบบนั้นครับ
นายตำรวจ : พอมันเย็น พี่ก็ให้เอ็งไปให้การไง เพราะว่าพี่น่ะหวังดีกับเอ็ง ไม่ได้มีอะไรหรอก พี่หวังดีต่อเอ็งไง
พยาน : ครับ ขอบคุณที่เมตตาผมครับ ตอนนี้ผมก็หาหมอ ตอนนี้ผมกำลังกลับมาเอาเอกสารแล้วก็ไปหาหมอต่อที่มหิดลครับ
นายตำรวจ : อ่อ หาหมอที่มหิดลนะ
พยาน : ใช่ครับเพราะวันนี้เพิ่งหาหมอที่ ตร. เสร็จ
นายตำรวจ : เอ็งๆ ต้องรีบตัดสินใจนิดหนึ่งนะ เพราะว่านานๆ เขาจะให้โอกาสเอ็ง รีบๆ ดำเนินการ
พยาน : อ๋อครับ ได้ครับ ขอบพระคุณมากครับ
นายตำรวจ : เอ็งไปให้การเอ็งก็ไม่ต้องบอกใครหรอก ใส่หมวกใส่แว่นตาอะไรไปก็ได้ เดี๋ยวเขาให้ความคุ้มครองเอง เขาคุ้มครองพยานได้
พยาน : ผมกลัวไงครับ กลัวผมจะไม่ค่อยปลอดภัย
นายตำรวจ : เรื่องจากไหน
พยาน : อะไรนะครับ
นายตำรวจ : ใครจะมาทำอันตรายเอ็งวะ
พยาน : ไม่รู้ ผมกลัวไปเอง ตอนนี้ผม ผมเป็นแพนิคด้วยครับ ผมคิดเยอะไงครับ
นายตำรวจ : อ๋อ เป็นแพนิค อ๋อ แต่ว่าชุดของคณะกรรมการเขาจะเข้ามาให้เอ็งเข้าระบบคุ้มครองพยานได้
พยาน : อ๋อครับ
นายตำรวจ : นะ ให้คุ้มครองพยาน พี่ว่าเอ็งไป บรรยากาศดีเลย เอ็งไปให้การนะเพราะว่า เขาจะออกหมายเรียก
พยาน : อ๋อครับ ได้ครับ ผมก็ยังลังเลอยู่ครับท่านครับ ผมก็กลัวไงครับท่านครับ
นายตำรวจ : อันนี้พูดให้เอ็งฟัง แล้วแต่เอ็งตัดสินใจนะ ว่าทางคณะเขาแจ้งมา ยังให้โอกาสเอ็งอยู่ประมาณนี้
พยาน : ขอบพระคุณที่เมตตาให้โอกาสผมนะครับท่านครับ ผมขอปรึกษากับเมียผมก่อนดีกว่าครับ ขอคิดดูก่อนครับ
นายตำรวจ : เออ ได้ๆ ไม่เป็นไร ตามความสมัครใจ พี่ไม่ได้ว่าอะไร
พยาน : ครับท่านครับ
นายตำรวจ : เออ นะ โอเคๆ
แน่นอนว่า ทั้ง สำนวนหลุด ออกสื่อ และ คลิปเสียงหลุด ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนปล่อยออกมา การปล่อยข้อมูลในลักษณะนี้ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ ?
การที่ สำนวนหลุด พนักงานสอบสวนอาจเดือดร้อนและถูกตำหนิ ไม่เป็นผลดี ส่วนผู้ถูกร้องทุกข์ เกิดความตื่นตัวและออกมาแก้ต่างได้ทันท่วงที
ส่วน คลิปเสียงหลุด พบว่าไม่มีคำพูดล่อแหลม ไม่เป็นอันตรายกับทั้งสองฝ่าย แต่มองได้หลายมุม
- มุมหนึ่ง ถูกมองว่า ฝ่ายพนักงานสอบสวนอาจยังมีพยานหลักฐานไม่ครบถ้วนที่จะเอาผิดผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษได้ จึงต้องมาเกลี้ยกล่อมพยาน
- มุมหนึ่ง ฝ่ายพนักงานสอบสวนอาจมีหลักฐานอยู่แล้ว แต่กำลังหาพยานมาให้ปากคำสำทับ เพื่อให้สำนวนคดีแน่นหนามากขึ้น
- มุมหนึ่ง ทำให้ผู้เป็นนายของพยาน มั่นใจและไว้วางใจว่าลูกน้องจะไม่เปิดเผยข้อมูล หรือให้การซัดทอด
แต่หัวใจสำคัญอีกมุม เมื่อทั้ง สำนวน และ คลิปเสียง หลุดออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันคือ นั่นหมายความว่ามีคนไม่ต้องการให้ คดีเว็บพนันออนไลน์ หรือ คดีมินนี่ ดำเนินการไปอย่างเงียบๆ แต่ต้องการตีปี๊บให้สังคมรับรู้ และคอยโฟกัสติดตามตรวจสอบความคืบหน้า เป็นระยะๆ!