ข่าว

ชาวนครศรีฯ นั่งรถไฟ 16 ช.ม. ร้อง 'กัน จอมพลัง' ถูกวัยรุ่นทำร้าย แจ้งความไม่คืบ

ชาวนครศรีฯ นั่งรถไฟ 16 ช.ม. ร้อง 'กัน จอมพลัง' ถูกวัยรุ่นทำร้าย แจ้งความไม่คืบ

20 ก.พ. 2567

กัน จอมพลัง พาครอบครัวชาวนครศรีธรรมราช ร้อง ผบ.ตร. ปราบวัยรุ่นทะลุถุงยางทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่ แจ้งความ ตำรวจไม่รับ อ้างคดีเด็ก

กัน จอมพลัง พา 3 ครอบครัวเดินทางจากนครศรีธรรมราชนั่งรถไฟนานกว่า 16 ชั่วโมง มาร้องขอความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังลูกหลานของครอบครัวดังกล่าวถูกกลุ่มวัยรุ่นทะลุถุงหรือแก๊งเยาวชนในพื้นที่รุมทำร้ายร่างกายสร้างความวุ่นวายให้คนในพื้นที่ เมื่อไปแจ้งความตำรวจกลับไม่รับแจ้ง อ้าง เป็นคดีเด็กไม่อยากทำ ซึ่งคนในจังหวัดไม่ไหวก้บพฤติกรรม ดักทำร้ายเอามีดไล่แทงเด็ก ตอนกลางคืนขับรถไปตามหมู่บ้านเอาปืนออกมายิงชาวบ้านแถมคนก่อเหตุเป็นลูกตำรวจในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวอะไร อีกทั้งหลังก่อเหตุไม่รู้ใช้วิธีไหน เอากล้องวงจรปิดในพื้นที่ออกมาโพสต์ลงสตอรี่ โชว์ว่าไปไล่กระทืบคนมา แถมชอบโพสต์โชว์ปืนเป็นประจำ เหยื่อถูกแทงทั้ง 2 เคสแจ้งความตำรวจเงียบ บอกเพียงเคสเด็กทำยาก 

โดยภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพ กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุสวมใส่เสื้อแขนยาวขายาว ประมาณ 5-6 คน ยืนรอดักอยู่บริเวณลานจอดรถในห้าง ก่อนที่จะมีผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา กลุ่มวัยรุ่นก็ได้กระโดดถีบ กระทืบ และชายเสื้อสีครีมหยิบอาวุธมีดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จ้วงแทงกระหน่ำหลายครั้ง ก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะวิ่งหนีผ่านกล้องวงจรปิดนอกห้างไป และยังมี กลุ่มวัยรุ่นคนร้าย ยังคงวิ่งไล่ตาม

 

ต่อมาภาพคลิป คลิปวิดีโอแนวตั้งเป็นภาพหลังจากเหตุการณ์แทงกันในห้างสรรพสินค้าโดยได้มีพนักงานให้การช่วยเหลือ อีกทั้งภาพวีดีโอและภาพนิ่งของกลุ่มนี้ได้มีการถ่ายคลิปและรูปสตอรี่ อัพโชว์ อาวุธปืนหลายกระบอก และภาพถ่ายยิงปืนเข้าใส่กำแพง โชว์ศักยภาพ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองพาผู้เสียหายทั้งหมด 3 ครอบครัว เดินทางมาจาก นครศรีธรรมราช ทั้ง 3 ครอบครัวเดินทางมาด้วยรถไฟทั้งหมด 16 ชั่วโมง เพื่อมาขอความเป็นธรรมให้กับลูกหลาน จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากมีกลุ่มแก๊งทะลุถุงยางมาเกิด ในพื้นที่ ก่อเหตุอุกอาจ ก่อความวุ่นวายในพื้นที่ โดยไล่ทำร้ายเด็กในพื้นที่ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมยังเอากล้องวงจรปิดเอามาโพสต์ โอ้อวดลงโซเชียล ซึ่งยังแปลกใจว่าเด็กกลุ่มนี้ เอาคลิปกล้องวงจรปิดจากทางห้างได้อย่างไร

 

เบื้องต้นตนเองได้ตรวจสอบแก็งนี้ พบว่ามีสมาชิกทั้งหมด 40-50 คน แถมยังมีลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย โดยแก็งทะลุถุงจะก่อเหตุไปเรื่อย ประกาศศักดา คอยไล่ยิง ไล่ฟัน เด็กในพื้นที่หลังจากเกิดเหตุ คุณยายของผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า เป็นคดีเยาวชน จับตัวยาก ดำเนินคดียาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ซึ่งหลานไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ทำให้คุณยายต้องเดินทางไปสถานีตำรวจถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฎิเสธไม่รับแจ้งความ บอกให้ผู้ปกครองเด็กมาแจ้งความเอง 

 

ตนของตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมถึงไม่ให้ความช่วยเหลือประชาชน อย่างน้อยรับเรื่องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แจ้งกำนันในพื้นที่ ให้เข้าไปดูแลช่วยเหลือ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง

 

ตอนนี้ชาวบ้านและประชาชนไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินทางมาหาตนเอง ตนจึงประสาน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยื่นหนังสือและหลักฐาน ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

 

โดยคุณแม่หนึ่งในผู้เสียหายได้เปิดใจเล่าทีมข่าวฟังว่าวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.00น. ลูกชายของเธอออกไปซื้อของที่ตลาดโต้รุ่ง ทุ่งสง อ. อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ จากนั้นกลุ่มนี้ก็ยิงปืนใส่ลูกชายของเธอจากนั้นทั้งหมดก็ลงมามัดมือลูกชายของเธอและรุมทำร้ายทั้งการใช้มีดฟันและใช้ปืนข่มขู่ ลูกชายของเธอได้ยกมือขึ้นมาป้องกันไม่ให้โดนบริเวณศีรษะจึงทำให้ถูกฟันเข้าที่มือจนเอ็นขาด และมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเข่าข้อเท้า

 

โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เธอได้ติดต่อไปทางห้างที่เกิดเหตุเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดแต่ทางห้างปฏิเสธอ้างว่าต้องให้ตำรวจเป็นคนมาขอแต่เธอพบว่าทางกลุ่มผู้ก่อเหตุมีคลิปกล้องวงจรปิดแล้วมาโพสต์ลงโซเชียลเป็นการยั่วยุ เธอจึงสงสัยว่าทำไมเด็กกลุ่มนี้ถึงได้กล้องวงจรปิดทั้งที่เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ครอบครัวของเธอต้องอยู่อย่างวาดกลัวเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังวนเวียนอยู่หน้าบ้านของเธอ 

 

 

ด้านผู้เสียหายอีกคนเล่าให้ฟังว่า ลูกชายได้ไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และพบว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นเดินตามตลอดเวลาที่อยู่ในห้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร ต่อมาลูกชายก็ได้เดินลงมาที่ลานจอดรถ เพื่อที่เดินทางกลับบ้าน ในขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านนั้น ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ลงมาล้อมรถจักรยานยนต์ และรุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟันมาที่หลัง อีกทั้งยังขโมยเสื้อที่ลูกชายซื้อมาเอาไปอีกด้วย เคราะห์ดีที่ลูกชายของตนสามารถวิ่งหนีออกมาไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้ทัน ต่อมาพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด มาโพสต์ลงโซเชียล ซึ่งผู้เสียหายเคยไปถามหาจากห้างสรรพสินค้า และห้างสรรพสินค้าก็ไม่ได้ให้ไปพร้อมกับอ้างว่าต้องมีหนังสือขออนุญาตจากทางตำรวจมา ผู้เสียหายจึงทำกลับบ้านและกลุ่มก่อเหตุนำคลิปดังกล่าวมาจากไหน ทางห้างสรรพสินค้าก็น่าจะตอบว่าเดี๋ยวจะขอไปตรวจสอบก่อนว่าคลิปดังกล่าวใครเป็นคนเผยแพร่ 

 

นอกจากนี้โดยหลังจากแจ้งความแล้ว ทางตำรวจกับไม่ช่วยดำเนินการใด ๆ พร้อมกับบอกอีกว่า ทำไมเวลามีเรื่องต้องมาร้องให้ตำรวจช่วยเหลืออยู่ตลอด ทำไมไม่ไปหาผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนันบ้าง ซึ่งทำให้ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องให้กัน จอมพลังช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ตนยังรู้สึกหวาดระแวง ขนาดได้ยินเสียงประทัดก็ยังทำให้รู้สึกหวาดกลัว 

 

 

ขณะที่ผู้เสียหายคนสุดท้ายคุณยายอายุ 72 ก็เล่าให้ฟังว่า หลานชายของตนถูกวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ไต ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพักรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน ซึ่งหลังก่อเหตุยายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ปรากฏว่าตำรวจได้ไล่ให้ยายไปตามหา พ่อ - แม่ของเด็กมาแจ้ง แต่ยายก็จนปัญญาเพราะพ่อ-แม่ เด็กทิ้งเด็กคนนี้ไว้ให้แกเลี้ยงตั้งแต่ 1 เดือน ทำให้ต้นรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังรู้สึกหวาดระแวง เนื่องจากว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงชักชวนพรรคพวกมาชี้เป้าที่บ้านของตน และมาก่อความวุ่นวายใช้อาวุธปืนยิงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 

 

ด้านพลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้สั่งการ ประสานทาง ผู้บังคับการ ตำรวจภูธร ภาค 8 ทางผู้การนครศรีธรรมราชได้เรียกประชุมและทราตัวของผู้ก่อเหตุหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจับกุมในเร็ววัน 

 

ในส่วนของพนักงานสอบสวนที่ใช้วาจาไม่เหมาะสม ทำให้ทางประชาชนไม่พอใจ จะทำการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากพลว่าผิดวินัยตำรวจ จะดำเนินการทางด้านวินัยอย่างแน่นอน

 

ในส่วนของอาวุธไทยประดิษฐ์ที่นำมาโชว์ลงโซเชียล เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมผู้ครอบครองแล้ว 1 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์มาแล้ว 2 กระบอก 

 

ในส่วนของผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ หากผู้ปกครองปล่อยประละเลย ให้บุตรหลานของท่านออกมาก่อเหตุแบบนี้ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เช่นกัน ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

 

อยากให้ประชาชนมั่นใจ ว่าทางเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการในทุกมิติ จะดำเนินการอย่างยุติธรรม และจับคนร้าย ทะลายแก็งวัยรุ่นดังกล่าวให้ได้ทั้งหมด