ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' จ่อเอาผิด 'พ.ต.อ.' ทำสำนวนคดีเว็บพนันมินนี่ หลุด ยันโดนดิสเครดิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เชื่อถูกดิสเครดิต ตัดพ้อไม่ได้คุม ไซเบอร์ จะเอี่ยว 'คดีมินนี่' อย่างไร เตรียมยื่น ป.ป.ช. ขอตรวจสอบพนักงานสอบสวน เข้าข่าย 157

19 ก.พ. 2567 จากกรณีที่กองบัญชาสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หรือ บิ๊กโจ๊กให้ไปสอบปากคำในฐานะพยานวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 2567)  ในคดีเกี่ยวกับเชื่อมโยงเว็บพนัน หรือ คดีมินนี่

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ เนื่องจากตนไม่ได้ให้คุณให้โทษกับเว็บพนัน และตนไม่ได้คุมไซเบอร์ ถึงแม้ว่าจะเป็นรอง ผบ.ตร.ที่ดูความมั่นคงก็ตาม 

บิ๊กโจ๊กจ่อเอาผิด พ.ต.อ.ทำสำนวนคดีเว็บพนันมินนี่ หลุด ยันโดนดิสเครดิต

 

 

ทั้งนี้เรื่องนี้มีการโยงเส้นทางการเงินมายังลูกน้องของตนทั้ง 8 คน และสำนวนคดีมีการสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว ซึ่งตำรวจจะหมดอำนาจทันทีในการสอบสวน ถ้ามีการสอบสวนจะต้องมีคำสั่งจากอัยการเท่านั้น ซึ่งมองว่า พอเอาเว็บพนันมาผูกกับลูกน้องตน 8 คน ก็พยายามจะโยงหาตน

 

การที่จะมีความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันนั้น เส้นทางการเงินก็ต้องเป็นเงินที่มาจากการทำเว็บพนัน ไม่ใช่การโอนเงินไปมาในชีวิตประจำวัน แล้วมาบอกว่าเป็นเงินเว็บพนัน ตนสงสารลูกน้องที่ตั้งใจทำงาน จะต้องรู้สึกอย่างไร เพราะตนไม่ได้ดูแลด้านไซเบอร์ ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามเว็บพนัน ตนดูเรื่องค้ามนุษย์ ในเมื่อไม่มีผลประโยชน์ แล้วใครจะมาจ่ายเงินค่าเคลียร์ให้ตนกับลูกน้องตน 

 

ส่วนกรณีพบเส้นทางการเงินของตนโอนไปยังลูกน้องนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นเงินที่ตนให้ไปทำงาน ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน พร้อมเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิตตน ส่วนจะเป็นเรื่องไหนนั้นตนไม่ขอพูด และเชื่อว่าจะมีการแต่งบทละครใส่ร้ายตนให้เสียชื่อเสียงจนกว่าคดีนี้จะยุติ 

 

เมื่อสอบถามถึงกระแสข่าว สอท. มีหมายเรียกขอให้เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานแต่อย่างใด ส่วนจะเดินทางไปหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจอะไร และต้องเป็นคำสั่งของอัยการเท่านั้นตนถึงจะเดินทางไป เพราะสำนวนคดีนี้อยู่กับอัยการ และส่วนหนึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.

 

บิ๊กโจ๊กจ่อเอาผิด พ.ต.อ.ทำสำนวนคดีเว็บพนันมินนี่ หลุด ยันโดนดิสเครดิต

 

 

คดีนี้ตนรู้สึกสงสารลูกน้องและพนักงานสอบสวนบางคนที่ถูกเรียกมาเซ็นชื่อแต่ไม่ได้ทำสำนวน คนทำสำนวนจริงๆ มีอยู่แค่ 3-4 คน ดังนั้นคนที่มีการเซ็นชื่อ ขอให้ระวังจะเสียใจไปตลอดชีวิต วันนี้มีอำนาจบางอย่าง แต่ถ้าวันข้างหน้าความจริงปรากฎ คุกตารางก็รออยู่  ส่วนสื่อมวลชนที่แชร์ข่าวให้ตนได้รับความเสียหาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ให้พึงระวังหากข่าวดังกล่าวไม่จริง ตนจะใช้กฎหมายดำเนินการ


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในตอนนี้ ยังไม่มีเรื่องอะไรโยงมาถึงตนได้ สำนวนที่ส่งไปให้ ป.ป.ช. ก็ยังไม่ได้คืนมา เพราะ ป.ป.ช. ต้องให้ความเป็นธรรมกับตำรวจ พิจารณาดูแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตำรวจทะเลาะกัน จึงให้ตำรวจทำเองไม่ได้ ต้องสอบสวนเอง โดยถ้าจะมีการแจ้งข้อหาตนนั้น ก็ไม่เป็นไร แต่การยัดข้อหาเป็นคนละเรื่อง ตนไม่ได้โกรธใคร แต่เป็นห่วงน้องๆ ที่อยู่ในคณะพนักงานสอบสวนว่าจะเดือดร้อนภายหลัง และมองว่า เรื่องนี้ตำรวจทะเลาะกันเอง แต่ชาวบ้านมองแล้วเค้าสมเพชว่าทำไมถึงไม่เอาเวลาเหล่านี้ไปทำงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน แต่กลับเอาเวลาทำงานมานั่งทำสิ่งที่ไม่สมควรทำ พร้อมเปรียบเทียบตนเองว่า ตนเป็นเหมือนรถ 1 คันที่ขับไปบนถนน พอเจอตำรวจจราจรก็ถูกโบกเรียก ขอตรวจใบขับขี่ พอมีแสดงให้ดูถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจจราจรก็เปลี่ยนใหม่ ขอเดินดูรถรอบคันเพื่อดูว่าจะมีตรงไหนผิดกฎหมายหรือไม่

 

ส่วนกรณีอัยการถูก 1 ใน 8 ลูกน้องของตนไปคุกคาม สะกดรอยตามนั้น จากการสอบถามลูกน้องยืนยันว่า ไม่ได้กระทำการลักษณะดังกล่าว หลังจากเป็นกระแสก็ได้ยื่นเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาที่มีการไปคุกคามได้มีการมาปรึกษาก่อนยื่นจดหมายถึงนายกหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนเพิ่งรู้หลังจากที่ยื่นหนังสือไปแล้ว เพราะถ้าทราบก่อนจะไม่ให้ยื่นเด็ดขาด เพราะมองว่าไม่จำเป็น 

 

ส่วนกรณีของ ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ  ถูก 1 ใน ชุดพนักงานสอบสวนของ สอท. โทรศัพท์เข้ามาเพื่อให้กลับคำให้การ ทำให้ตนและพวกเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า มีการติดต่อมาจริงเป็นพนักงานสอบสวน ยศนายพัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ลูกน้องของตนจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวเข้าข่ายผิด  ม.157 หรือไม่ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ