ข่าว

รวบ จนท.สินเชื่อขาย 'ข้อมูลส่วนบุคคล' ชื่อละบาท พบมีหลุดถึงมือคอลเซ็นเตอร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจไซเบอร์ รวบ จนท.สินเชื่อสถาบันการเงินเอกชน ขาย 'ข้อมูลส่วนบุคคล' ขายชื่อละ 1 บาท ทำรายได้เดือนละเป็นหมื่น พบบางส่วนขายให้ 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์'

15 ก.พ. 2567  ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  ,ดร.ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล,พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผอ. สำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.นิคม ชัยเจริญ ผบก.สอท.2  รวมร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติการตามยุทธการแองเจิลอาย จับกุมคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ 3 คดี 
 

รมว.ดีอี แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์

 

 

คดีแรก พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ รอง ผกก.3 บก.สอท.5 นำหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 116/2567 ลงวันที่  6 ก.พ. 2567 จับกุมตัวนายสุวรรณ อายุ 42 ปี หัวหน้าฝ่ายสินเชื่อสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ตามหมายจับศาลอาญา  หลังสืบทราบว่ามีการนำข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้าของสถาบัน การเงินของตนเองมาดัดแปลงแก้ไขและนำไปจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มที่สนใจ อาทิ ตัวแทนสินเชื่อ ตัวแทนประกัน ซึ่งบางกรณีตกไปอยู่ในมือของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ จากการตรวจค้นในบ้านพักพบคอมพิวเตอร์พกพาและโทรศัพท์มือถือ ที่เก็บไฟล์ภาพข้อมูลของลูกค้าและประชาชนที่ซื้อขายข้อมูลมาจากบุคคลอื่น และข้อมูลลูกค้าที่ผู้ต้องหาถือเก็บไว้

 

จากการสอบสวน นายสุวรรณ ให้การรับสารภาพว่า ทำการเก็บข้อมูลลูกค้าจากการจดบันทึกและจัดทำเป็นไฟล์เอกสารแล้วจึงนำไปจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มนายหน้าประกัน นายหน้าสินเชื่อของสถาบันธนาคารการเงินอื่น โดยจะทยอยนำรายชื่อลูกค้าประมาณ ครั้งละ 3,000 – 5,000 รายชื่อ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเครดิตดี ไปจำหน่ายต่อในราคารายชื่อละ 1 บาท ทำให้มีรายได้เพิ่มเติมในแต่ละเดือนหลักหลาย 10,000 บาท โดย ทำมาแล้ว 1-2 ปี เพื่อใช้ข้อมูลชื่อลูกค้าในการทำงานฝ่ายสินเชื่อมากขึ้น

 

 

จนท.ฝ่ายสินเชื่อ ลอบขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

 

 

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฎิบัติหน้าที่ตาม พระราชบัญญัตินี้นำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่นทำให้เสียหาย ,ทำลาย แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ชอบอันเป็นความผิดตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและพรบ.ความผิดทางคอมพิวเตอร์
 

 

ตร.ไซเบอร์ จับแก๊งหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์ ที่กัมพูชา

 


คดีที่ 2 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒิ ผกก.4บก.สอท.2  จับกุม น.ส.กัญญาณี อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ. 23/2567 ลงวันที่ 8 ก.พ. 2567ในความผิดเป็นธุระจัดหาโฆษณาหรือขายข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นๆ โดยคุมตัวได้ที่บริเวณด้านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังออกอุบายชักชวนคนไปทำงานออนไลน์ โดยให้เปิดบัญชีธนาคาร แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกทำงาน คอลเซ็นเตอร์ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ส่วนบัญชีธนาคารที่ถูกเปิดไว้นั้น ถูกนำไปเป็นบัญชีม้าของขบวนการดังกล่าว ซึ่งต่อมาภายหลังผู้เสียหายได้หลบหนีมาได้จึงได้เข้าแจ้งความและนำไปสู่การจับกุม

 

ตร.ไซเบอร์ จับแก๊งหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์ ที่กัมพูชา

 

 

คดีที่ 3 ทลายเว็บพนันออนไลน์ 2 เครือข่าย  โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 26 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มรับผลประโยชน์ ,ทำหน้าที่จัดการเรื่องการเงิน,บัญชีม้า ตลอดจนแอดมิน เป็นต้น โดยตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินอาทิ เงินสดกว่า 18 ล้าน ,รถยนต์ 2 คัน รถจยย.2 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม 11 ใบ เครื่องประดับนาฬิกาหรู คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก มูลค่ากว่า 40 ล้านบาทโดยทั้งสองเว็บมีกลุ่มลูกค้า140,000 รายพบเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 300 ล้านบาท 

 

 

ทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากแก๊งเว็บพนันออนไลน์

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ