ข่าว

สาว 'เชิดเงินดาวน์มือถือ' ซุกเกาะช้างนานนับปี สุดท้ายไม่รอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'สืบนครบาล' รวบสาวเจ้าของร้านมือถือออนไลน์ 'เชิดเงินดาวน์' หนีกบดานเกาะช้างกว่า 1 ปี พบผู้เสียหายกว่า 100 ราย เจ้าตัวอ้างโดนลูกค้าเบี้ยวผ่อนชำระจนหมุนเงินไม่ทัน

15 ก.พ. 2567   เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล  ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยติดตามจับกุม น.ส.มาริสา  (สงวนนามสกุล) ซึ่งเปิดร้านขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่างๆผ่านเพจเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม โดยให้ลูกค้าจ่ายเงินดาวน์ ก่อนผ่อนชำระสินค้า แต่ น.ส.มาริสา เกิดบ่ายเบี่ยงไม่ส่งสินค้าให้ และปิดเพจของร้าน ทำให้มีผู้เสียหายกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ รู้ตัวว่าถูกหมายจับ จึงได้หนีหลบซ่อนตัวไปตามจังหวัดต่างๆ จนต่อมาได้สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่บนเกาะช้าง จังหวัดตราด ชุดจับกุมจึงได้วางแผนเดินทางไปจับกุม 
 

สืบนครบาล รวบสาวเชิดเงินดาวน์มือถือ หนีซุกเกาะช้างนานนับปี

 

 

โดย  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.มาริสา อายุ 21 ปี โดยจับกุมได้ที่หน้าร้านรับส่งพัสดุ ในพื้นที่ ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด

 

จากพฤติการณ์ของ ผู้ต้องหาทรายว่า เมื่อปี พ.ศ. 2564 น.ส.มาริสา ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก เพื่อขายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆ โดยลูกค้าที่สนใจในช่วงแรกจะเป็นคนคุ้นเคยกัน เข้ามาผ่อนสินค้า เช่นโทรศัพท์มือถือ แทปเล็ต หูฟัง เป็นต้น หากผ่อนชำระยอดเกิน 50% จึงได้รับสินค้าไป โดยช่วงแรกจะมีลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาช่วงหลังเพจมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน จึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาผ่อนชำระสินค้ามากขึ้น

 

โดยลูกค้าที่สนใจต้องใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐานในการผ่อนชำระสินค้า ต่อมาเมื่อลูกค้าได้ผ่อนชำระเกิน 50% และได้รับสินค้าไปแล้ว ไม่ยอมผ่อนชำระต่อ จึงเพิ่มเงื่อนไขของลูกค้าคนใหม่คือ ต้องจ่ายเงินดาวน์ตามที่กำหนด ถึงจะสามารถผ่อนชำระสินค้าได้ โดยผู้ต้องหา จะนำเงินดาวน์ของลูกค้าคนใหม่ไปหมุน เพื่อชำระสินค้าของลูกค้าคนเก่า ทำให้ร้านขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาบริหารธุรกิจต่อได้ จึงได้ปิดเพจดังกล่าวลง และมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท
 

รวบสาวเชิดเงินดาวน์มือถือ หนีซุกเกาะช้างนานนับปี

 

 

จากการซักถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในหมายจับของ สน.บางขุนเทียน โดยตนหนีมาหลบซ่อนตัวที่เกาะช้าง หลังจากรู้ว่ามีหมายจับ และได้มาทำงานรับจ้างร้านรับส่งพัสดุ ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง เพราะบางคนดาวน์ไป แต่ไม่ผ่อนส่ง เกิดการขาดสภาพคล่อง หมุนเงินไม่ทัน จึงได้ปิดเพจลง และได้คืนค่าสินค้าให้กับลูกค้า แต่ว่าคืนยังไงก็ไม่หมด

 

จากการตรวจสอบ พบว่า น.ส.มาริสา ผู้ต้องหา เป็นบุคคลตามหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลายพื้นที่ ดังนี้ 

 

  • 1.เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 953/2566 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2566 กระทำความผิดฐาน  “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
  • 2.หมายจับศาลจังหวัดหล่มสักที่ 23/2566 ลงวันที่ 9 ก.พ.2566 
  • กระทำความผิดฐาน  “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
  • 3.หมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่จ.114/2566 ลงวันที่ 24 ส.ค.2566
  • กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
  • 4.หมายจับศาลอาญา 3279/2566 ลงวันที่ 27 ก.ย. 2566
  • กระทำความผิดฐาน  “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”

 

ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 


 

logoline