แกะรอย รักสามเส้า ถึง รักต้องฆ่า บทสรุปรักร้าว คดี ‘ช่างกิต - สาวพร – ใหม่’ เคลียร์ชัดทุกปม โยงถึง ‘สาวพร’ หรือไม่
เงื่อนงำความน่าสงสัยในตัว สาวพร ยังเป็นคำถามคาใจสังคม รวมถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวน ที่แม้ยังไม่มีพยานหลักฐานสาวถึงตัวเธอ แต่กระนั้นการคลี่คลายให้เกิดความกระจ่าง เพื่อตอบคำถามสังคมได้ ยังคงต้องดำเนินการต่อไป
คดีฆาตกรรมรักซ้อนซ่อนเงื่อน ช่างกิต ก่อเหตุอุ้มฆ่า นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ หนุ่มโรงงาน ในสภาพถูกมัดมือมัดเท้า ศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์ ทิ้งศพริมรั้วมอเตอร์เวย์ กม.41+100 ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีผู้มาพบศพ เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 ม.ค.67
โดย ใหม่ หนุ่มโรงงาน หายตัวออกจากไปตั้งแต่ เวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 27 ม.ค.67 เพื่อไปทำงานกะดึก แต่แล้วก็ไปไม่ถึงโรงงาน เพื่อนร่วมงานพากันตามหา แต่ไร้เงา ใหม่ กระทั่งมาพบกลายเป็นศพ
ชุดสืบสวน สอบปากคำพยานคนใกล้ตัว พยานแวดล้อม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไล่ย้อนจากจุดพบศพ และไล่ย้อนจากบ้านพัก ใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ช่วงเวลาที่ ใหม่ เดินทางออกจากบ้าน ในทันที
ปมอุ้มฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เพราะรถจยย.และโทรศัพท์มือถือหายไป ถูกตัดทิ้งในเวลาไม่นาน เมื่อพบว่า สาวพร ภรรยาของ ใหม่ หนุ่มโรงงาน ผู้เสียชีวิต มีแฟนหลายคน มีโลกหลายใบ หนึ่งในนั้น คือ ช่างกิต
สอดคล้องกับกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ที่พบรถยนต์สีแดงต้องสงสัย ซึ่งเป็นรถยนต์ของ ช่างกิต ขับไล่ตาม ใหม่ หนุ่มโรงงาน ในคืนวันที่ 27 ม.ค.67
พยานหลักฐานชี้ชัดมัดแน่นไปที่ตัว ช่างกิต จากปมฆ่าชิงทรัพย์ จึงกลายเป็น ปมหึงโหด
วันที่ 1 ก.พ.67 ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จับกุม ช่างกิต ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนเทพรัตน์ อ.บางพลี
จากการสอบปากคำ ช่างกิต รับสารภาพ ว่า หลังจากที่อุ้ม ใหม่ มาแล้ว ได้คุยแบบลูกผู้ชายว่ามี 2 ทางเลือก ทางเลือกที่ 1.ถอยออกจาก สาวพร แล้วมีชีวิตอยู่ต่อไป หรือ 2.ยอมตายเพื่อจากไป โดย ช่างกิต อ้างว่า ใหม่ ตอบว่า “แล้วแต่ อยากจะทำอะไรก็ทำ ตายก็ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น ช่างกิต ระเบิดอารมณ์ ลงมือใช้อาวุธปืนยิง ใหม่ เสียชีวิตทันที ก่อนนำศพไปทิ้ง ริมรั้วมอเตอร์เวย์
จากแผนประทุษกรรมทั้งหมด ทั้งการอุ้ม การมัด การแบกร่าง การแบกศพ แน่นอนว่า ช่างกิต ไม่สามารถลงมือคนเดียวได้ การสอบปากคำและการแกะรอยจากพยานหลักฐาน รวมถึงกล้องวงจรปิด เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุ ดำเนินการไปพร้อมๆกัน
รุ่งขึ้น วันที่ 2 ก.พ.67 ชุดสืบสวนสภ.บางปะกง และชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เข้าจับกุม นายโบ๊ท หลานช่างกิต ทำหน้าที่ขี่รถจยย.ของ ใหม่ ผู้เสียชีวิต หลังรถยนต์สีแดงขับเบียด รถจยย.ของ ใหม่ ล้มลง จากนั้น ช่างกิต ลงมืออุ้ม ใหม่ โดยให้ นายโบ๊ท มาขี่รถจยย.ของ ใหม่ แทน
โบ๊ท ถูกตั้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ และ คุมตัวไปชี้จุดทิ้งอาวุธปืน และ รถจยย.ของ ใหม่ ที่ถูกชำแหละแล้ว ทิ้งบริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยประสานนักประดาน้ำให้งมขึ้นมา
เวลาไล่เลี่ยกัน นายปานเทพ นายสุขสงกรานต์ และ น.ส.อภิสรา ลูกน้อง ช่างกิต เข้ามอบตัว ทุกคนปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และถูก ช่างกิต หลอกใช้
ขณะเดียวกันสปอร์ตไลท์ สาดส่องมาที่ สาวพร ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารโหดครั้งนี้หรือไม่ ?!
ทีมสืบสวน ยืนยันที่อยู่ของ สาวพร ทันที คืนวันที่ 27 ม.ค.67 ขณะที่ ช่างกิต ขี่รถจยย.ออกจากบ้าน เธออยู่ที่ไหน ?
จากพยานหลักฐานชี้ชัดว่าคืนนั้น สาวพร อยู่ที่บ้านพักทั้งคืน ไม่ได้ออกไปไหน โดยมีพยานเป็นชายอีกคนที่มาหาเธอที่บ้านหลัง ช่างกิต คล้อยหลังออกไปไม่นาน สำทับด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพรถกระบะตู้ทึบที่ชายคนนั้นขับมาหาที่บ้านพัก
สอดคล้องกับคำให้การของ ช่างกิต ยืนยันว่า สาวพร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง “ถ้าพรรู้ว่าจะฆ่าใหม่ เขาต้องเลิกกับผมทันที” ช่างกิต บอกกับตำรวจหลังสิ้นอิสรภาพ
อย่างไรก็ดีมีบุคคลแวดล้อม ตั้งข้อสังเกตในตัว สาวพร หลายข้อ อาทิ
- ทั้งๆที่ศพยังคลุมผ้าอยู่ แต่ทำไมรู้ว่าเป็น ใหม่
- ทำไมถึงต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงก่อน จึงออกตามหา ใหม่
- ทำไมถึงให้การฉะฉาน
- ทำไมถึงต้องลบแชตตลอด
ทุกประเด็นทีมสืบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ ช่างกิต ถูกสอบปากคำอีกครั้ง แต่ยังไม่พบพิรุธว่า สาวพร มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่า หรือเป็นนกต่อ
รวมทั้ง สาวพร นำแชตปริศนา มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นแชตข้อความที่ส่งมาจาก ใหม่ ในห้วงเวลาที่ใหม่หายตัวไป แต่ยังไม่มีใครพบศพ แชตระบุข้อความทำนองว่า “ไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง และขอเลิกรา” ตรงนี้ทำให้ สาวพร ไม่กระตือรือร้นที่จะตามหา ใหม่ เท่าที่ควร ซึ่งก็มีน้ำหนักรับฟังได้
และเพื่อคลายข้อสงสัยต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปะกง ได้ส่ง โทรศัพท์มือถือของ สาวพร ไปกู้ข้อมูล และตรงนี้จะเป็นไพ่ใบสุดท้าย ที่จะสรุปว่า สาวพร จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าโหด ใหม่ สามีของเธอหรือไม่
บทสรุปจะปรากฏในเร็วๆนี้ ?!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง