บินตรงจากญี่ปุ่น ร้องกองปราบช่วย คดีถูกทนายความเชิดทองคำ 51 บาท
บินตรงจากญี่ปุ่น 'ร้องกองปราบ'ช่วย คดีถูก 'ทนายความ' ลักทรัพย์ทองคำจากตู้เซฟ น้ำหนัก 51 บาท มูลค่า 1.6 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ก.พ.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พร้อมด้วย นายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือทนายเจส ได้พา นิกกี้-วันวิสาข์ (สงวนนามสกุล) 38 ปี แม่ค้าออนไลน์ แต่งงานกับพนักงานบริษัทชาวญี่ปุ่น แล้วไปอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น กว่า 10 ปี เดินทางมาจากอีบารากิ ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบ ร.ต.ท.วีรยศ สีหาบัง รอง.สว.(สอบสวน) กก.5.บก.ป. ร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกทนายความคนหนึ่ง เป็นทนายความประจำสักนักงานทนายที่มีชื่อเสียง ใน จ.ลพบุรี ลักทรัพย์ทองคำในตู้เซฟ กว่า 51 บาท มูลค่า 1.6 ล้านบาท เอาไปขายและจำนำ
นิกกี้ เปิดเผยว่า เมื่อปี 63 ถูกเท้าแชร์โกง เพื่อนที่เมืองไทยแนะนำให้รู้ทนายคนดังกล่าว จึงติดต่อว่าจ้างให้ทำคดีเพียงแค่เขายื่นโนติสไปเท่านั้น เท้าแชร์รายนั้นยอมจ่ายเงินจำนวน 2 แสนบาทคืนทันที หลังจากนั้นตนมีคดีความอื่นๆ จะมอบให้ทนายคนนี้จัดการทุกเรื่อง จนไว้เนื้อเชื่อใจ เซ็นเอกสารมอบอำนาจให้เขาไว้ดำเนินการที่ประเทศไทย ขณะที่ตนอยู่อาศัยทำมาหากินที่ญี่ปุ่นกับสามีและคุณแม่
ต่อมาทนายความคนดังกล่าวชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจเกี่ยวกับการประกันตัวผู้ต้องหา เห็นว่าสามารถสร้างรายได้ จึงร่วมลงทุนไป 2 แสนบาท ต่อมากลางปี 2566 ทนายคนดังกล่าวชักชวนให้ซื้อสวนทุเรียนและเปิดสำนักงานทนายความร่วมกัน ที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยให้ตนเป็นเจ้าของสำนักงานด้วย มีการเตรียมห้องพักให้เมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทย
แต่เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น เลยให้ทนายคนนี้ไปเอาเงินจากเพื่อน และให้ช่วยขนย้ายตู้เซฟที่ฝากไว้ที่บ้านของเพื่อน มาเก็บไว้ที่สำนักงาน ทนายคนดังกล่าวจึงได้เงินมาทำสำนักงาน และเอาตู้เซฟกลับมาที่สำนักงานให้ตน เนื่องจากเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจร่วมกัน ผู้เสียหายจึงได้ให้ความไว้วางใจ
ต่อมาเมื่อเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย ได้ไปที่สำนักงานและเปิดตู้เซฟพบว่า ทองคำแท่งและทองรูปพรรณที่ซื้อเก็บสะสมมาหลายปี น้ำหนักร่วม 51 บาท มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาทหายไป มาทราบภายหลังว่าทนายความคนดังกล่าวลักเอาไปขายและจำนำให้กับร้านทอง โดยพบตั๋วจำนำทองคำอยู่ในสำนักงาน ตนพยายามทวงถามและให้ชดใช้ความเสียหาย แต่กลับบ่ายเบี่ยงและเพิกเฉย ไม่ยอมคืนให้ จึงแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช 2 คร้้งๆ แรกแจ้งไว้เป็นหลักฐานว่าทองคำหาย เมื่อทราบว่าทนายคนดังกล่าวเป็นคนเอาไปก็ไปแจ้งดำเนินคดี แต่คดีไม่คืบหน้า และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาขอความช่วยเหลือในวันนี้
ด้านทนายเจส กล่าวว่า สำหรับคดีนี้นอกจากเป็นคดีอาญาฐานลักทรัพย์และ ยังจะพาผู้เสียหายไปร้องพฤติกรรมทนายความที่สภาทนายความ ด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายก่อนประสาน สภ.ท้องที่เกิดเหตุเร่งรัดคดี เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายตามกฎหมายต่อไป