คุก 15 ปี 5 ตำรวจ ตม. รีด 10 ล้าน นักธุรกิจชาวจีน
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งจำคุกอ่วม 15 ปี 5 ตำรวจตม. คดีรีดเงิน 10 ล้านบาท นักธุรกิจชาวจีน ส่วนคนชี้เป้าไม่รอด ศาลสั่งจำคุก10 ปี
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 12 ก.พ.67 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลอ่านคําพิพากษาคดีรีดเงินชาวจีน ที่พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ด.ต.พีระศักดิ์ ผบ.หมู่ สืบสวน บก.ตม.1กับพวกรวม 6 คน เป็นจำเลย กรณีพวกจำเลยร่วมกันรีดเงินจำนวน 10 ล้านบาทจากนักธุรกิจชาวจีนโดยทุจริต
โดย น.ส.นามี เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 ก่อนตำรวจขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับตำรวจรวม 5 นาย และติดตามจับกุมได้ตามลำดับ ได้แก่ ยศ พ.ต.ต.2 นาย , ร.ต.ท. 2 นาย และด.ต.1 นาย ทั้งหมดไม่ได้รับการประกันตัว และจับกุม นายสุรชัย อายุ 58 ปี ในฐานะคนชี้เป้า ให้ตำรวจ ตม.อุ้มเหยื่อชาวจีน
คำฟ้องสรุปว่า จําเลยที่ 1 ถึง 5 เป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1(บก.ตม.1 ) ควบคุมตัวผู้เสียหายชาวจีน 2 คน ขึ้นรถยนต์เป็นพาหนะ ไปที่ทำการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วไม่นำตัวผู้เสียหายเข้าสำนักงานฯ แต่กลับขับรถพา ผู้เสียหายทั้ง2คน วนไปสถานที่ต่าง ๆ และเจรจาต่อรองเรียกเงินจากผู้เสียหายที่ 1 เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี แก่ผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยโดยมิชอบ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นว่า กรณีฟังไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยทั้ง6 เป็นการร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยประการ ใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอม ต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ นั้นเองหรือของผู้อื่น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดดังกล่าว แต่มีความผิดในข้อหาอื่นๆ ประกอบด้วย เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดย มิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตำาแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมีชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
โดยมีจําเลยที่ 6 ร่วมกันกระทำความผิดดังกล่าวในลักษณะแบ่ง หน้าที่กันเป็นตัวการสมคบร่วมกระทำความผิดกับจําเลยที่ 1ถึง 5 แต่เมื่อจําเลยที่ 6 มิได้เป็น เจ้าพนักงานขาดคุณสมบัติเฉพาะตัวตามที่กฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ จึงมีความผิดเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และสนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
พิพากษาว่า จำคุกจำเลยที่ 1 ถึง 5 คนละ 15 ปี และจำคุกจำเลยที่ 6 เป็นเวลา 10 ปี