แกะรอย 9 วัน ‘เสี่ยขนบ’ หายตัวไร้ร่อยรอย ย้อนไทม์ไลน์ จากชุมพร ถึง นครพนม

9 วัน กับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ เสี่ยขนบ เจ้าของสนามชนไก่ ชาวต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร โดยญาติเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นาสัก จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 2 ก.พ.67 ว่า เสี่ยขนบ หายตัวไป ตั้งแต่ค่ำ วันที่ 1 ก.พ.67 พร้อมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย โดยพบว่าโทรศัพท์มือถือปิด ไร้สัญญาณตอบรับ

หลังรับแจ้งความ ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยทันที ไล่เรียงจากแกะรอยเส้นทางที่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ของ เสี่ยขนบ ขับผ่าน โดยพบว่าคนร้ายรูปร่างท้วมใส่แว่น ขับรถเป้าหมายผ่านจ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปทางเหนือ จากนั้นเวลา14.00 น. วันที่ 2 ก.พ.67 จีพีเอส รถฟอร์จูนเนอร์เป้าหมาย มาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง ฝั่งธนบุรี ในกรุงเทพฯ

 จากนั้นพิกัด รถฟอร์จูนเนอร์ คันดังกล่าวก็หายไปจากพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจีพีเอสถูกถอดทิ้งไปด้วย

พร้อมๆกันนั้น การสอบปากคำคนใกล้ชิด เสี่ยขนบ ดำเนินไปแบบคู่ขนาน ทั้งญาติพี่น้อง ภรรยาคนที่ 1 และภรรยาคนที่ 2 เพื่อหาข้อมูลความน่าจะเป็น และจับพิรุธความน่าสงสัยต่างๆ

โดยญาติให้ข้อมูลว่าภรรยาคนที่ 1 อยู่กับ เสี่ยขนบ มานาน 8-9 ปี ในพื้นที่ต.เขาค่าย ไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนภรรยาคนที่2 คบกันมานานเกือบ 1 ปี อยู่ที่ อ.หลังสวน

ด้านพี่ชาย เสี่ยขนบ บอกว่า น้องชายมักจะยุ่งอยู่กับธุรกิจสนามชนไก่ และเดินทางไปเล่นตีไก่ตามสถานที่ต่างๆในจ.ชุมพร พอว่างก็ทำสวน และไม่เชื่อว่าน้องชายจะขับรถจากชุมพรไปกรุงเทพฯ เพียงคนเดียว

กระทั่ง วันที่ 4 ก.พ.67 เวลา 18.00 น. ตำรวจทางหลวง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถฟอร์จูนเนอร์ต้องสงสัย จอดทิ้งไว้ในป่ายาง ข้างศูนย์พัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม บริเวณบ้านดงโชค หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถของ เสี่ยขนบ แต่ในรถไม่มี เสี่ยขนบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม คาดว่ารถอาจถูกโจรกรรมมา และเตรียมส่งข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ในจ.นครพนม พบว่า

• เวลา 14 .48 น. พบรถฟอร์จูนเนอร์ วิ่งย้อนมาทางด้าน อ.ท่าอุเทน ผ่านหน้า สภ.โพนสวรรค์ มีหญิงอ้วนผอม 2 คน เป็นคนขับและนั่งมาด้วย แต่ไม่พบตัว เสี่ยขนบ โดยมีการจอดรถลงนั่งกินก๋วยเตี๋ยว หลังกินเสร็จก็ขับรถต่อไป
• เวลา 15.51 น. พบว่ารถคันดังกล่าวขับผ่านสามแยกหนองญาติ มุ่งหน้าไปตามเส้นทางหนองญาติ –นาแก ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ข้างศูนย์พัฒนาที่ดิน แล้วนำรถไปจอดซุกป่ายาง พร้อมทิ้งกุญแจรถไว้ในช่องเก็บของในรถ

ด้าน พี่สาว เสี่ยขนบ เล่าว่า ภรรยาคนที่ 1ของ เสี่ยขนบ เคยมาระบายให้ฟังว่า เสี่ยขนบ ชอบไปบ่อนไก่ และไปหาภรรยาอีกคน รวมทั้งมักยืมเงินภรรยาคนที่ 1 ไปบ่อนไก่ ครั้งละ 50,000-100,000 บาท เป็นประจำ

พร้อมๆกันนั้น ชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่า เสี่ยขนบ มีหนี้สินหลักล้าน

หลายปมการหายตัวของ เสี่ยขนบ ถูกตั้งขึ้น ทั้งปมชู้สาว ปมหนีหนี้ และปมการทวงหนี้  ทีมสืบสวนเดินหน้าคลี่คลายทีละปม ทีละเปลาะ

โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8 เข้าควบคุมคดี ร่วมด้วยนักสืบฝีมือระดับพระกาฬ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 นำทีมสืบสวนแกะรอย ตามหาตัว เสี่ยขนบ

ขณะเดียวกันทั้งคนใกล้ชิดและเจ้าหน้าที่ ต่างภาวนาขอให้ เสี่ยขนบ ปลอดภัย