ข่าว

น้องพร จี้แม่เซ็นมอบอำนาจวันจัดงานศพ ครอบครัวคาใจเอี่ยวฆ่าเอาเงินประกัน?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครอบครัวคาใจ 'น้องพร' รีบให้แม่นายใหม่เซ็นมอบอำนาจจัดการมรดก คืนงานศพวันที่ 2 ตั้งข้อสงสัยเอี่ยวฆ่าเอาเงินประกัน 1.2 ล้านหรือไม่?

เหตุหนุ่มโรงงาน นายธนาสันต์ หรือ นายใหม่ ถูกอุ้มฆ่าทิ้งศพริมถนนมอเตอร์เวย์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีชนวนจากปมรักซ้อนโลกหลายใบของ น.ส.วรรณพร หรือ สาวพร ซึ่งปรากฎตัวขึ้นในวันพบศพของนายใหม่พร้อมกับ ‘ช่างกิตบางบ่อ’ หนุ่มโลกอีกใบผู้เป็นมือก่อเหตุ

 

อุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน

7 ก.พ.25667 ครอบครัวนายใหม่เข้าพบทนายไพศาล เนื่องจากสงสัยว่า เหตุใดหลังผัวตาย สาวพร ถึงรีบให้แม่เซ็นเอกสารมอบอำนาจจัดการมรดก

ทนายไพศาล หรือ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ เผยว่า ครอบครัวนายใหม่ไม่ต้องการให้ สาวพร ได้รับมรดก ทั้งทรัพย์สินต่างๆ ที่ทำมาหากินได้ร่วมกัน ทางทนายได้อธิบายให้ทางครอบครัวเข้าใจในเรื่องสินสมรสว่า น.ส. วรรณพร หรือ สาวพร ยังมีสิทธิอยู่ครึ่งหนึ่ง ส่วนเรื่องมรดกต้องนำสืบให้ได้ว่า สาวพรไม่มีส่วนกับการตายหรือเป็นผู้ที่ไม่สมควรได้รับ

ในเรื่องของทรัพย์สินจะมีเรื่องกองทุนยุติธรรม ประกันชีวิตของโรงงาน กองทุนประกันสังคม ประกันชีวิต 1.2 ล้านบาท รวมถึงบ้านและรถด้วย หากพิสูจน์ได้ว่าพรมีความผิด พรจะไม่ได้อะไรเลย ในเรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 สาย

1.สายมรดกเรียกว่าสายให้ สิทธิการการได้ของผู้เอาประโยขน์หรือผู้รับมรดก หลังจากเจ้ามรดกตาย

2. สินสมรส เป็นสายกรรมสิทธิ์เขาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ในเบื้องต้น สาวพรยังมีสิทธิได้ทุกอย่างเนื่องจากยังไม่ถูกศาลพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิด

 

ทางด้านทนายได้ทำเรื่องแต่งตั้งให้แม่ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนายใหม่ก่อน ส่วนประเด็นที่สาวพรจะเอาสินสมรสก็ต้องเข้ามาตกลงกันกับแม่ของใหม่ หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องมีการฟ้องร้องกัน

สาวพรร่ำไห้หลังดูร่างนายใหม่

ประเด็นที่สาวพรให้แม่นายใหม่เซ็นเอกสารมอบอำนาจจัดการมรดก ในคืนงานศพวันที่ 2 ทนายไพศาลเผยว่า “เรื่องเซ็นเอกสารเป็นข้อพิรุธ ทำให้ทนายตั้งเป็นข้อสันนิษฐานว่าการฆาตกรรมครั้งนี้ มีเหตุจูงใจมาจากเรื่องทรัพย์สินหรือไม่?
เพราะการฆาตรกรรมส่วนใหญ่มีไม่กี่สาเหตุ คือ เรื่องชู้สาว เรื่องทรัพย์สิน และเรื่องธุรกิจมืด

ในคดีนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจมืด แต่มีประเด็นเรื่องชู้สาว ส่วนเรื่องของทรัพย์สิน เพิ่งทราบในภายหลังว่ามีทรัพย์สินรวมๆ ล้านกว่าบาท ซึ่งหากแบ่งกันก็จะได้ประมาณฝ่ายละ 6 แสนบาท

 

สิ่งที่ตั้งเป็นข้อสันนิษฐานคือ งานศพนายใหม่คืนที่ 2 สาวพร ได้ให้แม่นายใหม่เซ็นมอบอำนาจจัดการมรดก ซึ่งพฤติการณ์ของคนทั่วไป การที่คนรักมา 17 ปีจากไป น่าจะไม่พูดเรื่องเงิน ควรรอให้งานศพผ่านพ้นไปก่อน เป็นปมที่ทำให้ครอบครัวระแคะระคายใจ ยิ่งสาวพรมีส่วนที่ทำให้นายใหม่ตาย ครอบครัวยิ่งไม่ยอมเรื่องเงินประกัน

 

พิรุธอีกอย่าง สาวพรให้การไม่ตรงกัน เช่น ให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จักนายกิต แต่สุดท้ายก็มาสารภาพว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายกิต,อ้างไม่รุ้ว่านายกิตมีรถเก๋งสีแดงคันก่อเหตุ แต่ก็มีคลิปที่ไปช่วยล้างรถ เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่ด้านหลัง เกิดข้อสงสัยว่าคบกันมา 4 เดือนไม่รู้เลยหรอ? ไม่เคยนั่งรถด้วยกันจริงหรือ? ,ในเรื่องคีย์การ์ดดันมาหายประจวบเหมาะกันวันนั้นพอดี,เรื่องเวลาเข้าออกของนายใหม่ นายกิตรู้ได้อย่างไรถ้าคนในไม่บอก,ทั้งการที่ชวนให้นายเอ (โลกใบที่ 3) เข้าบ้านในเวลาใกล้เคียงกัน,ทั้งเรื่องการจำเวลาได้แม่นยำ บอกว่านายใหม่ออกจากบ้านไปทำงานเวลา 22.06 น. ดูมีพิรุธทั้งหมด

 

เพราะพฤติการณ์ไม่แหมือนคนทั่วไปทำ ทั้งเรื่องการออกตามหาตั้งแต่เวลา 02.00-05.30 น. มีการถ่ายรูปขณะตามหา คนทั่วไปคงไม่มีเวลามาถ่ายรูป คือหลายอย่างเป็นข้อพิรุธหมด และที่สำคัญทำไมต้องเร่งจัดการเรื่องทรัพย์สิน

 

แต่จะเกี่ยวข้องหรือไม่ จะเป็นผู้ใช้,ผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ร่วมสนับสนุนหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของ จนท. สืบสวนสอบสวนที่จะต้องไปขยายผล เพราะตอนนี้ สาวพร ถูกสอบสวนในฐานะพยานอยู่ ดังนั้นถ้ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงก็อาจจะเป็นผู้ต้องหา หรือ ผู้เสียหายได้ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ตอนนี้ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตำรวจยังไม่สรุปสำนวนคดี ยังอยู่ในการสืบสวนสอบสวนขยายผล

logoline