ตร.ทางหลวง จับหนุ่มรับจ้างขน 'ยาบ้า' 3.3 ล้านเม็ด พร้อมอาวุธสงครามซุกกระบะ

5 ก.พ. 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)  โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร) นำโดย พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก., ร.ต.อ.ชาตรี บุญอยู่ รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ค.ต.สายซล ตั้งวงศ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.  ร่วมกันตรวจจับกุม นายอนุพงค์  (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี  พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 3,390,000 เม็ด

2. รถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้ออีชูซุ รุ่น D-MaX จำนวน 1 คัน

3. อาวุธปืนสงคราม M16 - A1 ยี่ห้อ โคลท์ พร้อมซองกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอก

4. อาวุธปืนสงคราม อาก้า ยี่ห้อ HK พร้อมชองกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอก

5. อาวุธปืนพกสั้น ลูกโม่ ยี่ห้อ สมิท แอนด์ เวสสัน ขนาด .357 มม. จำนวน 1 กระบอก

6. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 769 นัด

7. เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 3 นัด

8. เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 มม. จำนวน 5 นัด

 

 

 

 

สืบเนื่องจาก ตำรวจทางหลวง โดย ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร) ติดตามวิเคราะห์แผนเครือข่ายยาเสพติดที่ลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง มาส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าจะรับยาเสพติดจาก พื้นที่จังหวัดปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่พักยาเสพติดรอบกรุงเทพฯ ในช่วงกลางคืนจนถึงช่วงดึก เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ 

 

จากนั้นจะขนต่อลงมายังพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้ยานพาหนะชนิดต่างๆ มีทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะขนส่งอำพรางเหมือนเป็นรถขนส่งสินค้า โดยจะมีรถยนต์อีกคันหนึ่งทำหน้าที่เป็นรถนำทางเพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านอยู่หรือไม่ หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน ก็จะให้รถขนยาเสพติดจอดรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเลิกตั้งด่าน จึงค่อยเดินทางต่อ  โดยรถขนยาเสพติดดังกล่าวนี้จะผ่านพื้นที่ จ.ชุมพร ในช่วงเวลาเช้ามืด ถึง ช่วงเช้า

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจในช่วงดังกล่าว พบ รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น D-Max สีขาว  ติดตั้งรั้วขนส่งสินค้า ขับผ่านในลักษณะต้องสงสัย เมื่อเจอรถตำรวจสายตรวจแล้วพยายามลดความเร็วให้รถเจ้าหน้าที่แซงต่อเนื่อง

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงได้เรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดและทำการขอตรวจคัน ผลการตรวจค้นหลังรถยนต์กระบะ มีผ้าใบพลาสติกสีเทาดำคลุมอำพราง พบลังน้ำแข็งจำนวน 4 ใบ ด้านในลังบรรจุถุงกระสอบปุ๋ยสีเทา ภายในถุงกระสอบปุ๋ยบรรจุ สิ่งของเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส จึงทำการแกะออก พบกระดาษเทียนไขสีเหลืองปั๊ม ตราสัญลักษณ์ดาวห้าดวงและมีอักษรเลข 999 ภายในมียาเสพติดจำนวนมาก จึงได้ควบคุมตัว นายอนุพงค์ ผู้ขับขี่ มาตรวจค้นละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร

 

 

 

 

พบท้ายกระบะ ชุก ซ่อน ยาบ้า จำนวน 3,390,000 เม็ด นอกจากนั้นยังพบ อาวุธปืนสงครามอาวุธปืนสงคราม M16 - A1 ยี่ห้อ โคลท์ พร้อมซองกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนสงคราม อาก้า ยี่ห้อ HK พร้อมซอง กระสุนปืน จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนพกสั้น ลูกโม่ ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .357 มม.จำนวน 1 กระบอก และ เครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับว่าปกติตนได้รับจ้างวิ่งรถกระบะบรรทุกทั่วไป ใช้รถยนต์กระบะ ดัดแปลงสภาพโดยมีรั้วเหล็ก เพื่อใช้บรรทุกสิ่งของ โดยจะรับบรรทุกสินค้าจำพวกผักและผลไม้จาก สถานที่ต่างๆ  ต่อมาได้รับการติดต่อจากเครือข่ายยาเสพติด ให้ขนยาเสพติดและอาวุธปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนปืนของกลางดังกล่าวไปส่งให้กับเครือช่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช

 

โดยอาวุธปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนไปรับ มาจาก อ.สังคม จ.หนองคาย ส่วนยาบ้า ไปรับมาจาก อ.สามซุก จ.สุพรรณบุรี โดย ก่อนหน้าจะถูกจับกุมได้เคยขนยาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 100,000 บาท ครั้งนี้ตกลงค่าจ้างขนกันที่ 500,000 บาท โดยจะได้รับเมื่อขนส่งยาบ้า และอาวุธปืนไปส่งเรียบร้อยแล้ว

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหา 

1. มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย เพื่อการค้า
ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ได้ไว้ใน
ความครอบครองโดยไม่ใด้รับอนุญาต

3. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไมใด้รับอนุญาตจากนายทะเบียน

4. พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่ใด้รับ
อนุญาต หรือไม่มีเหตุอันสมควร