ข่าว

จากตบทรัพย์ 'อธิบดีกรมการข้าว' ถึงพิรุธไฟไหม้ 'กระทรวงเกษตรฯ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จากคดีร้อน ตบทรัพย์ 3 ล้าน 'อธิบดีกรมการข้าว' ถึง พิรุธเหตุไฟไหม้ 'กระทรวงเกษตรและสหกรณ์' จังหวะเวลาสุดแสนจะบังเอิญ

จากตบทรัพย์ 'อธิบดีกรมการข้าว' ถึงพิรุธไฟไหม้ 'กระทรวงเกษตรฯ'

ทำไมถึงได้ บังเอิ้น บังเอิญ ช่วงเวลาเหมาะเจาะ สำหรับเหตุการณ์ เพลิงไหม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม. เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 ก.พ.67 ที่ผ่านมา

 

เหตุเพลิงไหม้ เกิดในห้วงข่าวใหญ่ การดำเนินคดี คดี แก๊งตบทรัพย์ ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว โดยมีการเรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท และต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท แลกกับการไม่ร้องเรียนและเป็นข่าว

 

เป็นคดีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมมือกันสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน 

 

กระทั่งเปิดปฏิบัติการซ้อนแผนจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้อง(เรียน) กับพวกรวม 3 คน เมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ดำเนินคดี ฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด โดย  1 ใน 3 ถูกดำเนินคดี ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

โดยผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวออกไป วงเงินคนละ 4 แสนบาท

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับกุม นายเอกลักษณ์ หรือ เอก ปากน้ำ ตัวการสำคัญ ได้ที่บ้านพักย่านนิมิตรใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 หลังสอบปากคำ เอก ปากน้ำ ยื่นเงินสด 4 แสนบาทประกันตัวออกไป เช่นกัน

 

ในช่วงที่สปอตไลท์ทุกดวงส่องมาที่ กรมการข้าว หน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมๆกันนั้นก็มีกระแสข่าวการ ตบทรัพย์ บิ๊กๆอีกหลายกรม แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานชี้ชัด โดย กรมฝนหลวง ถูกโฟกัสเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

 

แต่แล้วใกล้พลบค่ำวันที่ 3 ก.พ.67 ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 2 ปีกขวาของอาคาร เป็นห้องประชุมย่อยคณะทำงานของ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในห้องมีเพียงโต๊ะประชุมยาว 1 ตัว และเก้าอี้ประมาณ 10 ตัว โดย เพลิงลุกลามไปห้องติดกัน เป็นห้องคณะที่ปรึกษานายไชยา ซึ่งมีโต๊ะทำงาน และเอกสารต่างๆ 

 

หลังเกิดเหตุ หลายฝ่ายจับตาเรื่องการพยายามทำลายเอกสารหลักฐาน คดีแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว แต่ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมายืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับคดีของ กรมการข้าว 

 

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ไม่เกี่ยวกับกรมอื่นๆใน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อาจเคยถูกแก๊งตบทรัพย์ข่มขู่ 

เนื่องจาก ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้เพียงแค่ 1 วัน บิ๊กคนหนึ่ง ใน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งสัญญาณบอกใบ้นักข่าว ทำนองว่า เคยเห็นหนึ่งในผู้ต้องหามาเดินป้วนเปี้ยน

 

อย่างไรก็ดี บ่ายวันที่ 4 ก.พ.67 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาสยบกระแสร้อน โดยยืนยันว่า "ห้องที่ถูกเพลิงไหม้ไม่มีเอกสารสําคัญใดๆ เพราะเอกสารสําคัญหรือเอกสารทางคดีต่างๆ ตนเก็บเอาไว้เอง ในระบบคอมพิวเตอร์ หรือ คลาวด์"

 

รวมทั้งนายไชยา ยืนยันด้วยว่า ทั้งนายศรีสุวรรณ และเจ๋ง ดอกจิก ไม่เคยมาพบ รวมทั้งตัวเองไม่ได้คุม กรมการข้าว และกลุ่มคนดังกล่าวไม่เคยมายื่นร้องเรียนเรื่อง กรมฝนหลวง กับตัวเอง มีแค่เคสเดึยวที่มีคนมายื่นเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ผู้ร้องขอปกปิดชื่อและเอกสาร


ขณะที่การตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. นำทีมตรวจสถานที่เกิดเหตุ (CSI) พฐก.นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนักเคมี-ฟิสิกส์ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ในช่วงสายวันที่ 4 ก.พ.67


โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณห้องครัวติดกับระเบียงด้านนอกอาคาร ในวันเกิดเหตุมีพ่อบ้าน กับคนฉีดปลวกเข้ามาบริเวณอาคาร แต่ไม่ได้เข้าไปภายในห้องครัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. รปภ.เห็นควันไฟลอยออกมาจากห้องดังกล่าว 

 

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์มารายงานว่า เป็นเรื่องของการล้างแอร์ ไม่มีอะไรเสียหายมาก

 

ดังนั้น จึงยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงได้ ต้องรอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

ว่าสุดท้าย จะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อุบัติเหตุ หรือวางเพลิง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ