ข่าว

เปิดใจแม่ 'มือแทง' ลูกโดนกดดัน จนรู้สึกโกรธ พร้อมแจงเป็น 'เด็กพิเศษ' หรือไม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดใจแม่เด็ก "มือแทง" เพื่อน ม.2 ดับ เผย ลูกโดนกดดัน กลั่นแกล้ง จนรู้สึกโกรธแค้น หลอกขอเงินยายซื้อมีด ตอบข้อสงสัยลูกเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ อยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

30 ม.ค. 2567  จากเหตุการณ์ เด็กนักเรียนชั้น ม.2  ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนร่วมชั้นเรียน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยเหตุเกิดภายในโรงเรียน หลังเข้าแถวในช่วงเช้า ของวันที่ 29 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา  

 

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ของเด็กผู้ก่อเหตุ โดยแม่เปิดใจว่า ตนและพ่อของลูกได้แยกทางกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังทำหน้าที่พ่อและแม่ คอยส่งเสียเลี้ยงดู ไปรับ-ส่ง ลูกไปโรงเรียนอยู่เป็นประจำ ซึ่งหลักๆ ลูกจะอาศัยอยู่กับย่าและน้องสาว วัย 6 ขวบ ส่วนเรื่องการเรียนของลูก เป็นเด็กเรียนดีมาโดยตลอด เป็นคนใจดี นิสัยดี ไม่เคยนิสัยก้าวร้าว หรือมีเรื่องกับใคร 

เหตุการณ์แทงกันโรงเรียน

 


หลังเกิดเหตุ  มีคนให้ข่าวว่าลูกตน ขึ้นโรงพักอยู่บ่อยครั้ง หลายคนคงมองว่าเด็กอายุแค่นี้ ขึ้นโรงพักหลายครั้งคงไม่ใช่เด็กธรรมดา ทั้งที่คนนั้นอาจจะไม่รู้สาเหตุ หรือที่มาที่ไป ซึ่งสาเหตุที่ขึ้นโรงพัก เนื่องจาก ลูกคนมักมีอาการเดินไปเดินมาคล้ายเด็กไฮเปอร์ ทำให้ถูกกลั่นแกล้ง ถูกขโมยรองเท้าถึง 4 ครั้ง ซึ่งตอนที่รองเท้าหายในครั้งแรกลูกชาย ถูกย่าต่อว่าเรื่องการรักษาของ ต่อมาพอรองเท้าหายอีกทำให้ลูกกลัวโดนต่อว่าอีก จึงคิดแก้ปัญหาผิดๆ

 

ด้วยการเดินเข้าไปหยิบของจากร้านสะดวกซื้อ แล้วเดินไปที่ สน.คลองตัน เอาของไปหาตำรวจแล้วบอกว่าตนเองไปขโมยของมาจากร้านสะดวก เพื่อต้องการให้ตำรวจกักตัวไว้จะได้ไม่ต้องกลับบ้าน ลูกทำแบบนี้ 2 ครั้ง จนตำรวจต้องโทรหาตน เพื่อให้มารับลูกกลับบ้าน หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ จนเกิดความเข้าใจผิดว่าลูกตนอาจจะก่อเหตุร้ายแรงจนต้องเข้าโรงพักนับไม่ถ้วน

 

 

ตร.นำตัวเด็กมือแทง ไปตรวจสุขภาพจิต หลังมีกระแสเป็นเด็กพิเศษ

 

 

ส่วนกรณีของเด็กผู้ตาย ลูกให้การกับตำรวจว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกชายได้เจอกับผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายมีเพื่อนรุ่นพี่อยู่ ม.3 ตอนนั้นผู้ตายไปหาเพื่อนรุ่นพี่ และเจอกับลูกชาย และเรียกลูกชายไปนั่งข้างๆ เมื่อลูกชายไปนั่งผู้ตายขอให้ลูกชายร้องเพลงให้ฟังหน่อย แต่ลูกชายบอกร้องไม่เป็น ผู้ตายจึงตบลูกชายตนด้วยหลังมือ 

 

หลังจากนั้นลูกชายก็พบกับผู้ตายอีก 2 ครั้ง มีการตบลูกชายด้วยแหวนรุ่น และยึดคีการ์ดเข้าห้องพักไป รุมทำร้ายลูกชายตนเสร็จแล้วจึงยอมคืนคีการ์ดให้  หรือแม้กระทั่งการเข้ามาขอเงินลูกชาย 20 บาท อ้างว่าจะเอาไปซื้อบุหรี่ สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับลูกชายอย่างมาก จนเมื่อวันเสาร์ ลูกชายขอเงินย่า อ้างว่าจะไปซื้อขนม แต่กลับเอาไปซื้อมีดเพื่อมาก่อเหตุดังกล่าว

 

 

แม่เด็กมือแทงเพื่อนดับ เปิดใจยอมรับลูกทำผิดจริง พร้อมอยากขอโทษครอบครัวเด็กที่ตาย

 


แม่ของเด็กมือแทง ยังบอกอีกว่า ส่วนเรื่องที่หลายคนสงสัยว่าลูกตนเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ จนถึงตอนนี้ตนก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ เพราะเมื่อตอนที่ลูกเด็กๆ ประมาณ อนุบาล 2 ครูประจำชั้นได้แจ้งตนว่าลูกอาจจะเป็นไฮเปอร์ให้ลองพาลูกไปตรวจ ตนจึงพาลูกไปตรวจหลังจากหมอตรวจก็ไม่ได้มีการนัดไปทำการรักษา ตนจึงเข้าใจว่าลูกไม่ได้เป็นอะไร เพราะเขาไม่มีพฤติกรรมที่จะเป็นเด็กพิเศษเลย ไม่มีอาการย้ำคิดย้ำทำ ไม่แสดงอาการเกรี้ยวกราดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ เรียนเก่งมาโดยตลอด แต่จะเป็นคนเก็บตัว ชอบเล่นคนเดียว เล่นกับหุ่นยนต์ มีเพื่อนน้อย  แต่คิดว่าอาจจะเป็นแค่ลักษณะนิสัยส่วนตัวเท่านั้น

 

จนเมื่อช่วง ธ.ค. 2566 ครูที่โรงเรียนแจ้งว่าลูกมีอาการแปลก ชอบออกมาเดินนอกห้อง ไม่เข้าเรียน หรือเดินวนอยู่ในห้อง ให้พาลูกไปตรวจ ตนจึงได้ติดต่อไปที่โรงพยาบาลที่มีสิทธิ 30 บาท ที่ลูกสังกัดอยู่ แต่ทางโรงพยาบาลไม่มีหมอทางด้านจิตเวช จึงให้ตนพาลูกไปรับคำปรึกษาจาก คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ตนจึงได้โทรไปสอบถาม แต่ได้คำตอบว่าต้องมีใบส่งตัวจากโรงพยาบาลระดับปฐมภูมิก่อน ตนจึงตั้งใจจะพาลูกไปขอใบส่งตัว แต่เนื่องจากปัญหาทางการเงินของครอบครัว จึงได้หารือกับพ่อของลูกว่า สิ้นเดือน ม.ค.2567 ถ้าเงินเดือนออกจะพาลูกไปหาหมอ แต่กลับมาเกิดเรื่องเสียก่อน 

 

ทั้งนี้ แม่ผู้ก่อเหตุยอมรับว่าสิ่งที่ลูกทำเป็นสิ่งที่ผิดมาก เขาต้องได้รับผลที่เขากระทำ และที่ตนออกมาพูดไม่ได้ต้องการจะใส่ร้ายคนตาย เพราะเข้าไม่สามารถมาโต้แย้งอะไรได้แล้ว แต่ที่ตนออกมาสื่อสาร คือคำที่ลูกบอกกับตำรวจ วนไปวนมา พูดเรื่อง ซ้ำๆ เดิมๆ หลายครั้ง ตอนนี้ลูกชายสภาพจิตใจแย่มาก เครียดจนหมอต้องให้ยาเพื่อให้เขานอนหลับ

 

ตนเห็นโซเชียลด่าลูกด้วยถ่อยคำต่างๆนานา ตนทำอะไรไม่ได้เพราะเรื่องก็เกิดขึ้นจริง แต่ที่ตนออกมาพูดก็เพื่ออยากทำหน้าที่แม่คนหนึ่งที่พอจะสามารถบอกเล่าเรื่องที่ลูกเจอ แต่ยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น ตนและพ่อของลูกเสียใจกับเรื่องนี้มาก อยากจะติดต่อไปที่ญาติผู้เสียชีวิต อยากจะขอโทษเขาจริงๆ อยากจะชดใช้ให้เขาเท่าที่จะทำได้ให้ดีที่สุด อยากจะไปงานศพ อยากจะไปขอโทษเขาด้วยตัวเอง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ