'อธิบดีกรมการข้าว' ดอดพบ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ให้ข้อมูลคดีรีดทรัพย์ 1.5 ล้านบาท
"อธิบดีกรมการข้าว" ดอดพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ให้ข้อมูลคดี "ศรีสุวรรณ จรรยา" เรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ก่อนต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท
28 ม.ค.2567 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ มีกระแสข่าวว่า นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ผู้เสียหายในคดีเรียกรับผลประโยชน์ฯ จะเข้าให้ปากคำกับ ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบริเวณ ชั้น 15 และชั้น16 ซึ่งเป็นที่ทำการของ บก.ปปป. แต่ไม่พบว่ามีการสอบปากคำ อธิบดีกรมการข้าว หรือพยานคนอื่นๆ ที่ชั้นดังกล่าว มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2-3 นายที่ตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานและสำนวน และให้ข้อมูลว่าไม่ได้มีการนัดหมายเข้ามาให้ปากคำในวันนี้
ขณะที่ บนชั้น 27 ซึ่งเป็นห้องทำงานของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดีดังกล่าว พบว่าที่ห้องทำงานถูกปิดไว้แต่ภายในห้องมีการเปิดไฟ โดยที่ประตูมีป้ายเขียนข้อความว่า ปิดปรับปรุงห้อง และเมื่อสอบถามแม่บ้านก็แจ้งว่าวันนี้ รองผู้บัญชาการ ไม่ได้เดินทางเข้ามาทำงานที่ชั้นดังกล่าว
จากนั้นมีกระแสข่าวว่าอธิบดีอาจเข้ามาให้ปากคำที่ตึกกองบังคับการปราบปรามซึ่งอยู่ใกล้กัน ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินสำรวจบริเวณลานจอดรถ ไม่พบรถที่มีสัญลักษณ์หรือสติ๊กเกอร์ของกรมการข้าวติดอยู่แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวยังได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนาย ทั้งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และรองผู้บังคับการปราบปราม พบว่าตำรวจหลายนายไปปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ และบางส่วนไม่รับสาย
ขณะที่ นาย ดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยกับทีมว่า อธิบดีไม่ได้ติดต่อตนเองเรื่องการเข้ามาพบกับตำรวจเพื่อให้ปากคำ แต่ยอมรับว่าจะต้องมีการนำพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้พนักงานสอบสวนในเร็วๆนี้แต่ต้องรอการนัดหมายก่อน ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าอธิบดีอาจเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหรือตำรวจอย่างไม่เป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง อธิบดีกรมการข้าว ซึ่งตอบกลับมาว่าอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน และเมื่อสอบถามว่า ขณะนี้ให้ปากคำอยู่ที่ใดใช่ที่กองบังคับการปราบปรามหรือไม่ ณัฏฐกิตติ์ก็ตอบรับและตัดสายทันที