“เจ๊ปุ้ย” ไม่เครียดยันไม่ได้ฆ่าเศรษฐินีเมืองจันท์ ลั่นแค่ร่วม

28 ม.ค. 2567 จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่า น.ส.ปนิธิ สงวนนามสกุล หรือ “เจ๊ม่วย” อายุ 77 ปี จนเสียชีวิต ก่อนนำร่างไปทิ้งในสระน้ำกลางสวนผลไม้ ซึ่งอยู่บริเวณหลังปั้มน้ำมันเก่า พื้นที่ หมู่ 2 ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ห่างจากบ้านพักของผู้เสียชีวิต ประมาณ 100 เมตร เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

ต่อมาตำรวจสามารถจับกุม นางโสมสุดา สงวนนามสกุล  หรือ เจ๊ปุ้ย อายุ 43 ปี และนายกฤษฎ์ สงวนนามสกุล  หรือ อ้วน อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาฆาตกรรม “เจ๊ม่วย” เพื่อล้างหนี้กว่า 30 ล้าน

วันที่ 26 มกราคม 2567 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 แถลงข่าวปิดคดีดัง เหตุคนร้ายร่วมกันวางแผนอุ้มฆ่า “นางสาวปนิฐิ” โดยการก่อเหตุมาจากการฆ่าเพื่อล้างหนี้

โดยหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีผู้ลงมือก่อเหตุคือ นายกฤษฏ์ และ นาง โสมสุดา ผู้ต้องหา เป็นผู้ลงมือร่วมกันฆ่า "เจ๊ม่วย" ซึ่งสามารถจับตัวเจ้ปุ้ย ได้ที่ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี จากนั้นได้นำตัวมาทำการสอบสวน

เบื้องต้น เจ๊ปุ้ย ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือ ทางเจ้าที่ได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะสี่ประตูป้ายแดงจำนวน 2 คัน รถยนต์ตู้ห้องเย็นแบบสี่ล้อ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ไว้เพื่อทำการตรวจสอบ

พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายกฤษฏ์ รับสารภาพเป็นผู้ลงมือใช้เชือกรัดคอ นางสาวปนิฐิ หลังจากผู้ตายเสียชีวิต

ทั้งสองช่วยกันแบกศพไปที่กำแพง โยนข้ามกำแพง แล้วไปโยนลงบ่อน้ำ ส่วนเงิน 30 ล้าน เป็นเงินของ "เจ๊ม่วย" ที่ "เจ๊ปุ้ย" กู้ไป แต่ไม่ยอมใช้หนี้

ที่ผ่านมามีการทวงถามหลายครั้ง กระทั่งผู้ตายได้จ้างทนายมาก่อนจะเชิญ นาง โสมสุดา มาพูดคุยว่าจะใช้หนี้หรือไม่ ถ้าไม่ใช้จะแจ้งตำรวจข้อหาฉ้อโกง ทั้งนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีการกู้ยืมหลายครั้ง ไม่ใช่กู้แค่ครั้งเดียว รวมยอดเงินที่กู้ไปประมาณ 30ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ถือว่า ผู้ต้องหา มีการวางแผนอย่างแยบยลมาก มีการคิด ไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างละเอียด ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ซ่อนเร่นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

เวลา 11:30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเจ๊ปุ้ย หรือนางโสมสุดา พรหมวิเชียร อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าเศรษฐีนีเมืองจันท์ ส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดจันทบุรี ในระหว่างที่นำตัวขึ้นรถผู้สื่อข่าวได้สอบถาม เจ๊ปุ้ยตอบเผยว่า

“ตนเองไม่เครียด ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ลงมือฆ่าแต่ว่าร่วม แค่คิดว่าจะฆ่าแต่ไม่ได้ทำร่วมเฉยๆ ยืนยันว่า กฤษฏ์ เป็นคนลงมือทำ”

ถามว่าตอนนี้ท้องกี่เดือนแต่เจ๊ปุ้ยไม่ตอบ ส่วนอดเงินให้อาจารย์ใบ้หวยไหม บอกว่าไม่ได้โอนเป็นคนละส่วนกัน  

ด้านสามีของเจ๊ปุ้ย กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมภรรยา แต่อยากจะบอกภรรยาว่าถ้าทำผิดก็ให้ยอมรับผิด ตนเองเคยได้ยินชื่อของอาจารย์ใบ้หวยมาแล้ว แต่รู้ว่าแค่เล่นหวยกัน ยังไม่ทราบเรื่องที่มีสัมพันธ์ฉันชู้สาว และตนเองก็แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับภรรยาคนนี้อยู่

ส่วนรถคันที่ 3 ก็พอรู้ว่าภรรยาของตนซื้อให้กับอาจารย์....  ส่วนเรื่องที่ภรรยาตนท้องได้ 6 สัปดาห์นั้น ตนเองเพิ่งรู้เมื่อเมื่อวานนี้ แต่ก็ไม่ได้ตกใจ เพราะอยู่ด้วยกันก็ไม่เคยนอนด้วยกัน ส่วนเรื่องทองคำที่เคยมาเอาไป เป็นครั้งเมื่อตอนที่ยังอยู่ด้วยกัน เอาของตนเองและลูกสาวไป พร้อมกันน้ำหนักรวม 13 บาท เรื่องของการฟ้องร้องอาจารย์ใบ้หวย ทางญาติบอกว่ายังไม่ขอพูดตอนนี้

เวลา 14:30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายกฤษฏ์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรี โดยมีพ่อ และภรรยา มายืนให้กำลังใจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณ์ ได้ฝากข้อความไปถึง "เจ๊ปุ้ย" อีกว่า “โกหก ไอ้ชาติ....า” และยังบอกกับผู้เป็นพ่อว่าเดี๋ยวตนเองจะกลับมา มีน้ำเสียงสั่นเครือ ทางด้านภรรยาที่เดินมาส่งถึงกับน้ำตาคลอและเดินอุ้มลูกหลบไป