ข่าว

จู่โจมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภาคใต้ ใช้ Sim Box ลวง100ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ภาคใต้ ใช้อุปกรณ์ทันสมัย SIM BOX โทรป่วนนับแสนเบอร์ต่อวัน มีชาวมาเลย์ฯร่วมด้วย พบ 7 เดือน เสียหายกว่า 100 ล้าน

จู่โจมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภาคใต้ ใช้ Sim Box ลวง100ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ม.ค.67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) แถลงจับกุม นางสาว ซารีนา อายุ 24 ปี, นายเคียงวัน อายุ 25 ปีสัญชาติมาเลเซีย และ นายก๊วก รุง อายุ 36 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อม อุปกรณ์ sim box หรือ gsm gateway สำหรับ 32 ซิมการ์ด จำนวน 15 เครื่อง และเครื่องกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือ เราท์เตอร์ Wi-Fi จำนวน 3 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 6 บก.ป. นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่า 3 หลัง ในพื้นที่ต.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

สืบเนื่องจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักในประเทศไทย สร้างปัญหาส่งผลให้มีประชาชนถูกหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง ได้รับความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน โดยกลุ่มแก๊งเหล่านี้มักจะตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บริเวณชายแดนรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกอยู่ตลอดเวลา ตำรวจจึงต้องรู้ให้เท่าทันแผนพฤติกรรมของคนร้ายด้วย

จู่โจมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภาคใต้ ใช้ Sim Box ลวง100ล้าน

โดยหนึ่งในแผนประทุษกรรม ยอดฮิตที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้เป็นประจำคือ การโทรศัพท์หาผู้เสียหายโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและข่มขู่ให้เหยื่อหลงเชื่อว่าได้กระทำผิดกฎหมาย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมต่าง ๆ จนผู้เสียหายกลัวและหลงเชื่อยอมโอนเงินให้คนร้าย

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า Sim box นี้เป็นเครื่องมือที่สามารถโทรออกไปหาเหยื่อได้หลายๆเบอร์ เหมือนคนโทรอยู่ในเมืองไทย โดยจะโชว์เบอร์โทรศัพท์ตามปกติ ไม่มีเครื่องหมายบวกนำหน้า พบว่าอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ กลุ่มผู้ต้องหามีการอำพรางตัวทำให้สืบสวนหาตัวยาก แต่ทีมงานมีความสามารถชั้นสูงทำให้สามารถทะลุกลุ่มที่อำพรางตัวได้

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาเช่าบ้านไว้ทั้งหมด 3จุด มี Sim box จุดละ 5เครื่อง รวม15เครื่อง แต่ละเครื่องโทรได้ครั้งละ 32 เบอร์ รวม15เครื่อง สามารถโทรได้ 480 หมายเลขในเวลาพร้อมกัน   เท่ากับว่าใน1วัน สามารถโทรได้เป็นหมื่นเป็นแสนเบอร์ ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องได้ 3ราย เป็นชาวมาเลเซีย 2ราย และ หญิงไทย 1ราย

จากการสอบสวนมี ผู้ต้องหารับสารภาพ 2 คน คือ นางสาว ซารีนา และ นายเคียงวัน ที่กำลังคบหาดูใจกันได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวมาเลเซีย ให้ดูแลสถานที่ โดยส่วนใหญ่นายทุนชาวมาเลเซียจะติดต่อคนไทยที่มีความสัมพันธ์กับคนมาเลเซีย ให้หาบ้านเช่าและติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เนต จากนั้นฝ่ายเทคนิคจะเข้ามาดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ โดยผู้ต้องหาทั้ง2คนได้รับค่าจ้าง เป็นค่าดูแลอุปกรณ์ 5,000 บาทต่อจุดต่อเดือน

จู่โจมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภาคใต้ ใช้ Sim Box ลวง100ล้าน

ส่วน นายก๊วก รุง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า โอนเงินให้นางสาว ซารีนา ตามคำสั่งของนายทุนชาวมาเลเซีย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแต่อย่างใด

“ตำรวจสอบสวนกลางให้ความสำคัญในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากขึ้น นอกจากการสืบสวนจับกุมแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการตัดแขนตัดขา โครงข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกี่ยวกับการอุปกรณ์ต่างๆ ในการก่อเหตุด้วย ทั้งนี้ได้เดินทางไปประชุมกับตำรวจนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศจีนเหมือนกัน ทำให้ทราบว่าสิ่งที่ตำรวจจีนทำแล้วได้ผลคือ การรู้เท่าทันเทคโนโลยี พัฒนาระบบAI ที่สามารถสกัดโครงข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดย บช.ก.จะนำวิธีการดังกล่าวมาปรับใช้ในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยการสร้างระบบAI เป็นภูมิคุ้มกันบล็อคระบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์”ผบช.ก.กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ