ข่าว

ผวา ต่างชาติขับรถหรูพาสิงโตชมเมืองพัทยา ตรวจสอบพบเจ้าของเป็นคนไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวบ้านผวา ชายชาวต่างชาติขับรถหรูพาสิงโตชมวิวเมืองพัทยา ล่าสุดตรวจสอบแล้วพบเจ้าของเป็นคนไทย จะนำเอกสารการครอบครองมาแสดงต่อ จนท.

จากกรณีที่มีการแชร์ต่อคลิปชาวต่างชาติขับรถหรู พาสิงโตชมวิวกลางเมืองพัทยา ส่งผลให้ชาวบ้านนักท่องเที่ยวและคนใช้รถใช้ถนนต่างผวา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการนำสัตว์ดุร้ายมาเลี้ยง และมายังแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ผวา ต่างชาติขับรถหรูพาสิงโตชมเมืองพัทยา ตรวจสอบพบเจ้าของเป็นคนไทย

23 ม.ค. 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยสายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า สายที่ 2 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2  (ศรีราชา) และหัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าแหลมฉบัง  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมตรวจสอบ ตามที่สื่อออนไลน์ได้มีการโพสต์ดังกล่าว

ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบว่า สิงโต อยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยขณะเข้าไปตรวจสอบมี นายอนิรุจน์ ทนายความเป็นผู้นำตรวจสอบดังกล่าว และแจ้งว่าผู้ครอบครองสิงโตเป็นสาวไทย เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจสอบภายในบ้าน พบ Miss Albina Kuruts สัญชาติ ยูเครน อยู่ในบ้านพัก เป็นผู้อาศัยและดูแล สิงโต และมอบให้ Miss Albina Kuruts สแกนหาไมโครชิพ ในเบื้องต้น ปรากฎว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ไมโครชิพ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสุขภาพสิงโตเบื้องต้น พบว่าสิงโตมีสุขภาพแข็งแรงดี

ทั้งนี้จากการสอบถามทราบว่า สิงโตได้ทำการแจ้งขออนุญาตครอบครองไว้แล้ว โดยได้ยื่นคำขอที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ( บ้านโป่ง) โดยได้แจ้งขออนุญาตนำมาครอบครอง ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และแจ้งว่าจะนำเอกสารการแจ้งครอบครอง นำมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในวันพุธ ที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งรอเจ้าของนำเอกสารมาแสดงข้อเท็จจริงต่อไป

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบลูกสิงโต

สำหรับ สิงโต เป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ชนิด ก (ดุร้าย) ต้องดูแลรักษาในสถานที่ครอบครองที่แข็งแรงปลอดภัย ห้ามเคลื่อนย้ายก่อนได้รับอนุญาต ทั้งนี้ฝ่าฝืนมีความผิด ตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้ง และการครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและซากสัตว์ป่าควบคุม 2565 "จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ