ข่าว

พิรุธ ‘เน็ตไอดอล’ ถนัดขวา แต่ถือปืนมือซ้าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.พบพิรุธสภาพศพ จัดฉากฆาตกรรม ‘เน็ตไอดอลสาว’ ถนัดมือขวา แต่กลับถือปืนมือซ้าย คาดปมทะเลาะ ‘เฮียชัช’หนี้พนัน

พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง

ความคืบหน้าคดี น.ส.ธมลวรรณ หรือ "หวานเจี๊ยบ"  อายุ 23 ปี เน็ตไอดอล และดีเจสาว ถูกยิงเสียชีวิตในคอนดิเนียมหรู พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ก่อนถูก นายติณห์ หรือ "เฮียชัช" อายุ 41 ปี  จัดฉากว่ายิงตัวตาย สุดท้าย "เฮียชัช" ยิงตัวตายตามเพื่อหนีความผิด ที่คอนโดมิเนียมอีกแห่ง พื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 ม.ค.67

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ม.ค. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ตำรวจตั้งข้อสงสัยตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เพราะมีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งสภาพศพของผู้เสียชีวิต , ลักษณะการถืออาวุธปืนที่ถืออยู่ในมือซ้าย ทั้งที่ผู้เสียชีวิตเป็นคนถนัดขวา รวมถึงการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ข้อมูลมาเกือบทั้งหมดยกเว้น นายติณห์ หรือ "เฮียชัช" ชายคนสนิทของผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ จึงให้ฝ่ายสืบสวนติดตามจนทราบว่า "เฮียชัช" ออกจากคอนโดมิเนียม ที่เกิดเหตุไปเมื่อเวลา 06.37 น. วันที่ 20 ม.ค.67 ก่อนจะไปพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสนามบินน้ำ พื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนนำหมายเรียกพยาน ไปเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน เคาะประตูอยู่ 2-3 รอบ แต่ก็เงียบ ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ภายในห้องไม่รู้ว่ายิงออกมาที่ประตู หรือยิงไปที่ไหน จึงขอกำลังตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าไปในห้อง พบ "เฮียชัช" นอนหายใจรวยริน ก่อนจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ส่วนเรื่องทางคดี ค่อนข้างชัดเจนว่า "เฮียชัช" คือผู้ก่อเหตุในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เพราะหลักฐานบ่งชี้ แต่ตำรวจต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ผลการตรวจที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะภาพเขม่าดินปืน และรถเบนซ์ที่จอดใต้คอนโดย่านสนามบินน้ำ หากบ่งชี้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุชัดเจน พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ครอบครัวติดใจเรื่องที่ตำรวจไม่จับกุม "เฮียชัช" เอาผิดตั้งแต่คดีที่ทำร้ายเพื่อนชายของ "หวานเจี๊ยบ" เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา กรณีดังกล่าวเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ทำให้อำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุด จึงต้องให้อัยการสูงสุดเป็นคนสั่งคดี เหตุเกิดเมื่อเดือน พ.ย.66 ขณะที่อัยการสูงสุดเพิ่งส่งเรื่องกลับมาให้ตำรวจดำเนินการต่อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และตำรวจเพิ่งยืนยันตัว "เฮียชัช" ได้ แต่มาเกิดเรื่องนี้ขึ้นเสียก่อน โดยคดีนั้นอัยการตั้งข้อหาไว้ ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งนอกจาก "เฮียชัช" แล้ว ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกอย่างน้อย 1 คน เป็นคนไทย ที่ต้องสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดี ยืนยันว่าคดีนี้ยังอยู่ในกรอบเวลาตามกฎหมาย

"เรื่องพนันออนไลน์ ที่เฮียชัชเข้าไปพัวพัน มีหนี้สินติดตัวเป็นร้อยล้าน เป็นคำบอกเล่าของพยาน ต้องรอเรียกตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำ ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ พบเป็นปืนยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. มีชื่อเป็นผู้ครอบครองเป็นของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เฮียชัช ต้องรอเรียกเจ้าของปืนมาสอบสวน ว่าเหตุใด ปืนกระบอกนี้จึงไปอยู่กับ เฮียชัชและทำไมถึงมาอยู่ในที่เกิดเหตุ" พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าว

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน ซอยประชาอุทิศ 24 แขวงและเขตห้วยขวาง เพื่อสัมภาษณ์ น.ส.อิสรีย์ อายุ 25 ปี และ น.ส.พิมลภัทร อายุ 25 ปี เพื่อนของหวานเจี๊ยบ ระบุว่า ตอนนี้ผู้กระทำผิดได้รับกรรมที่เขาก่อไว้แล้ว เชื่อว่าเฮียชัชคือคนที่ลงมือฆ่าหวานเจี๊ยบ โดยปมเหตุมาจากเรื่องเงิน โดยเมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาเฮียชัชได้เงินจากการจำนองบ้านจำนวน 3 ล้านบาท นำมามอบให้หวานเจี๊ยบจำนวน 1 ล้านบาท บอกว่าเป็นของขวัญวันเกิดของหวานเจี๊ยบในเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ แต่หลังจากนั้นเฮียชัชได้มาขอเงินคืนไป 500,000 บาท เนื่องจากเดินทางไปเล่นพนันที่ปอยเปตประเทศกัมพูชา จนหมดตัว กระทั่งก่อนเกิดเหตุทราบว่าเฮียชัช กลับมาขอเงินอีก 500,000 บาทที่เหลือจากหวานเจี๊ยบ ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน เพราะหวานเจี๊ยบเตรียมนำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนทำครีมเพิ่ม และส่งเงินไปช่วยเหลือที่บ้าน

เพื่อนสนิทของหวานเจี๊ยบกล่าวด้วยว่า  ก่อนหน้านี้ทราบว่าฝ่ายชายพัวพันเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ แต่มาทราบภายหลังว่า ได้เลิกทำเว็บพนันออนไลน์แล้ว มักเดินทางไปเล่นพนันที่บ่อนปอยเปต ประเทศกัมพูชาเป็นประจำ ตลอดเวลาที่คบหากันนาน 2 ปี เฮียชัชให้เงินหวานเจี๊ยบเดือนละประมาณ 100,000 บา ทแต่ช่วง 6 เดือนหลังไม่ได้ให้เงินกับหวานเจี๊ยบอีก ก่อนจะมามอบเงินให้ 1 ล้านบาทแล้วก็พยายามเอาคืนกลับไปเล่นพนัน

"เพื่อนๆพยายามบอกให้หวานเจี๊ยบเลิกกับเฮียชัช เนื่องจากเห็นว่าถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายมาตลอด แต่เฮียชัชกลับใช้ LINE ของหวานเจี๊ยบ พิมพ์ข้อความมาบอกเพื่อนๆ ว่า มีแต่ความตายเท่านั้นที่พลัดพรากเราสองคนไปได้ โดยปืนที่พบในที่เกิดเหตุ เป็นของเฮียชัช มักนำมาวางไว้บนหัวเตียงนอนของหวานเจี๊ยบ แต่ไม่ทราบว่า ผู้ครอบครองเป็นใครและได้มาได้อย่างไร" เพื่อนของหวานเจี๊ยบกล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ