‘บิ๊กต่อ’ ชี้ ‘โซเชียลไดนามิก’ ต้นตออาชญากรที่อายุน้อยลง

จากคดีกรณีกลุ่มเยาวชนอายุ 13-16 ปี จำนวน 5 คน ในจำนวนนี้มีลูกตำรวจ 2 คน ก่อเหตุรุมทำร้ายป้าบัวผันหรือป้ากบเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ที่อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อรัญประเทศ ได้จับกุม ลุงเปี๊ยก สามีป้ากบ แต่พบว่าเป็นการจับผิดตัว

ต่อมา พบเหยื่อหลายรายออกมาร้องเรียนว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย ข่มขืน อาละวาดปาระเบิด ระรานจนทำให้ชาวบ้านหวานผวา กระทั่งเกิดกระแสสังคมเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายเยาวชน

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.67 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ตอบข้อซักถามกรณีพบว่าอาชญากรกลายเป็นเยาวชนมากขึ้น ว่า เป็นเรื่องของโซเชียลไดนามิก โลกหมุนไปเร็ว มีการศึกษาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เป็นการศึกษาที่ไม่มีที่สิ้นสุดทำให้ได้รับสื่อเกี่ยวกับความรุนแรงและข้อมูลที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย เช่น แก๊งที่เขวี้ยงระเบิดปิงปอง ก็ศึกษาจากโซเชียล ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการเรื่องอายุเกินกว่าวัย จนนำไปสู่การก่อเหตุอาชญกรรม หรือกลายเป็นอาชญากรที่อายุน้อยลง

เมื่อถามว่าแล้วตำรวจจะปรับตัวรับมืออย่างไร ผบ.ตร.กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีการพูดถึงเรื่องอายุของเยาวชน ในเรื่องการรับโทษ จากต่ำกว่า15 เป็น12 ปี ในส่วนของตำรวจได้ตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่เด็กเป็นผู้ก่อเหตุย้อนหลังไป5ปี เพื่อหาสถิติ การก่อเหตุของเด็กก่อนจะเสนอเป็นกฎหมายต่อไป เนื่องจากมองว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน มีทั้งNGO และบุคคลที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กที่จะโจมตีเรื่องการแก้โทษกฏหมายเด็กในภายหลัง ทำให้ต้องหาสถิติอย่างชัดเจนก่อน และไม่ใช่ทุกคดีที่จะลดอายุเด็ก คดีที่เป็นอาชญากรรมรุนแรง เช่น ฆ่า ข่มขืน ควรมีการปรับแก้ให้รับโทษแบบผู้ใหญ่ ยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้าน เยอรมัน จีน สิงคโปร์  ลดอายุการรับโทษเหลือ 12 ปี แต่มองว่าประเทศไทย ต้องผ่านอีกหลายกระบวนการ 

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า เมื่อผ่านคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) แล้ว ต้องส่งกระทรวงยุติธรรม ต้องพิจารณาอีกหลายหน่วย แต่เริ่มต้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ยุทธศาสตร์ของตำรวจประสานกองกฎหมายและคดี มานั่งปรึกษาหารือร่วมกัน และให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนนำเสนอเรื่องนี้ถึงกระทรวงยุติธรรม เราจะทำอย่างไร ในกระทรวงยุติธรรม ว่าจะทำอย่างไร ถ้าไม่เริ่มอาชญากรเด็กจะไม่ลดลง