ข่าว

‘พี่เฉลิมชัย’ ยันไม่ใช่ญาติผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อน แค่มาขอใช้นามสกุล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘พี่เฉลิมชัย’ยัน ไม่ใช่ญาติผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อน แค่มาขอใช้นามสกุล เพราะบรรพบุรุษที่จีน รู้จักกัน ปัดเอี่ยวหมูเถื่อน เชื่อ ‘เฉลิมชัย’ ก็ไม่รู้เรื่อง

จากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) คดีหมูเถื่อน ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินการรับคดีพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 คดี ได้แก่ คดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์สัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว จำนวน 2,388 ตู้ และคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีขบวนการนำเข้านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวนกว่า 10,000 ตู้ เพื่อสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดสำหรับดำเนินคดีทางอาญาตามฐานความผิด

ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ 5 บุคคล ประกอบด้วย นายหลี่ หรือเฮียเก้า , นายหยาง ยา ซุง , นายกรินทร์, น.ส.นวพร และนายสมเกียรติ หรือเฮียเกียรติ ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 , ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายหยาง ยา ซุง น.ส.นวพร และนายสมเกียรติหรือเฮียเกียรติเข้ามอบตัวกับดีเอสไอแล้ว โดยให้การปฏิเสธ

ด้านมุมคนใกล้ชิดเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ล่าสุด นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทยเจ้าของโรงงานสับปะรดกระป๋องที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พี่ชายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณี  ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อน เนื่องจาก หนึ่งในผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อน  มีนามสกุลเดียวกันกับนายวิรัชว่า

“บุคคลดังกล่าว ไม่ใช่ญาติ เป็นแค่คนมาขอใช้นามสกุลเท่านั้น รู้เพียงว่า ญาติเขาอยู่เมืองจีน อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพ่อของตน ดังนั้นคนรู้จักกันมาขอใช้นามสกุล จึงไม่ได้มีปัญหาอะไร และได้สอบถามกับทางอำเภอว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งทางอำเภอยืนยันว่า ได้ จากนั้นจึงยื่นหลักฐานเอกสารไปตามกฎหมาย และมีการตรวจสอบประวัติไม่พบการกระทำความผิด  แต่พ่อในช่วงที่อยู่เมืองจีน ปรากฏว่าพ่ออยู่บ้านเดียวกับพ่อของเสี่ยเก้า หลังจากเสี่ยเก้ามาเมืองไทยก็ตามมาหาผมที่ปราณบุรี ลูกชายของเสี่ยเก้าเคยใช้แซ่ด้วย จากนั้นก็มาขอใช้นามสกุล ก็เห็นเขาเป็นคนดี ก็เลยให้ใช้ ส่วนจะไปทำหมูเถื่อนไก่เถื่อน ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย

“ผมคิดว่าเรื่องนี้เฉลิมชัยก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย นายเก้าก็ไม่ใช่น้องชายของเฉลิมชัย เก้าเนี่ยเป็นคนที่บรรพบุรุษคนจีนอยู่รวมกันในกลุ่มของเสี่ยเก้าก็รู้จักกัน ก็มาเมืองไทย เขาก็มาตามหาคนบ้านเดียวกัน และก็รับเขาก็แค่นั้น ลูกชายเขามาเกิดเองไทย ใช้แซ่อยู่ ก็ขอมาใช้นามสกุล ก็พิจารณาแล้วเป็นคนดี ก็เลยให้ใช้ร่วมกัน เฉลิมชัยใช้นามสกุลแม่ผม ส่วนผมใช้นามสกุลเพื่อนที่เขาตั้งขึ้นมา”นายวิรัช กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ