หยาง ยา ซุง-นวพร 2 ผัวเมีย 'ตีนไก่เถื่อน' ดอดมอบตัว DSI หลังบินกลับจากไต้หวัน

15 ม.ค. 2567  นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร  2 ใน 5 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวนกว่า 10,000 ตู้ ในส่วนของการทำธุรกิจตีนไก่สวมสิทธิ์ส่งขายต่างประเทศ เดินทางเข้ากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังจากที่ทั้งคู่ เดินทางกลับจากไต้หวัน

และทั้ง 2 คนเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ นายหยาง และ น.ส.นวพร  ได้นัดหมายจะเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 ม.ค. 2567 แต่ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงขอเข้าพบก่อนกำหนด

สำหรับพฤติกรรมของสามีภรรยานั้น จากรายงานการสืบสวนพบว่าทั้งคู่เป็นคู่แข่งทางการค้ากับนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า ในธุรกิจส่งออกตีนไก่สวมสิทธิ์ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ (สาธารณรัฐประชาชนจีน)

ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนจะต้องใช้ในการสอบปากคำ อาทิ สั่งนำเข้าตีนไก่มาจากประเทศต้นทางใดบ้าง นำเก็บแช่ไว้ที่บริษัทห้องเย็นแห่งไหน ปริมาณที่นำเข้าตีนไก่ ขั้นตอนการนำเข้าตีนไก่จากประเทศต้นทางมายังราชอาณาจักรไทยเป็นอย่างไร และได้มีการแกะสินค้า ขึ้นบรรจุภัณฑ์ใหม่ ปั๊มตราสินค้าตีนไก่เหล่านี้อย่างไร ก่อนนำออกจำหน่ายไปยังประเทศจีน หรือได้จัดส่งจำหน่ายไปที่อื่นบ้างหรือไม่ เป็นต้น รวมถึงมีความเกี่ยวข้องกันทางการค้ากับนายหลี่ เซิ่งเจียว ด้วยหรือไม่
 

ก่อนหน้านี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI คดีหมูเถื่อน  โดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน รับคดีพิเศษเพิ่มอีก 2 คดี ได้แก่ คดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว จำนวน 2,388 ตู้ และคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวนกว่า 10,000 ตู้ เพื่อสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดสำหรับดำเนินคดีทางอาญาตามฐานความผิด

ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ 5 บุคคล ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า , นายหยาง ยา ซุง , นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ , น.ส.นวพร เชาว์วัย และนายสมเกียรติ กอไพศาล ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 , ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน