'แม่แตงโม' อ้างโดนที่ปรึกษา กม. ยักยอกเงินครึ่งล้าน จ่อตั้ง ทนายเดชารื้อคดี

8 ม.ค. 2566 ที่สำนักงานทนายเดชา เขตคันนายาว นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา พร้อมนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือ แม่แตงโม นิดา และนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ตั้งโต๊ะแถลงกรณี นางพนิดา ถูกทีมทนายยักยอกว่าครึ่งล้านบาท และลอบยื่นฟ้องนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ว่าข่มขืน แตงโม โดยมีหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินและจดหมายบันทึกส่งมอบเงินสดตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 2566 

นางพนิดา เปิดเผยว่า วันนี้มาพูดคุยกับทนายเดชา ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องที่ถูกยักยอกทรัพย์ อีกเรื่องคืออยากให้ทนายเดชา กลับมาทำคดีแตงโมดังเดิม เนื่องจากคดียังอยู่ในชั้นศาล และทนายคนอื่นไม่เก่ง แต่ทนายเดชาเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย มีความฉลาดและเก่ง

ส่วนเรื่องยักยอกทรัพย์นั้นต้องย้อนไปว่า ได้รู้จักกับนาย ช.หัวหน้าชุดทนายความของคดีแตงโม ที่มีรองอธิบดีอัยการคนหนึ่ง ฝากตัวมาช่วยคดีที่ตนจะฟ้องร้องแซน กระติก และจ๊อบ ว่าร่วมกันฆาตกรรม ก่อนตนจะถอนฟ้องภายหลังเพราะเสี่ยงจะถูกฟ้องกลับ โดยนาย ช.เป็นเพียงที่ปรึกษากฎหมาย ไม่ใช่ทนายความในคดี เพราะยังไม่มีการเซ็นแต่งตั้ง แต่นาย ช.กลับไปแต่งเรื่องเขียนสำนวนฟ้องเองว่าปอกับโรเบิร์ตข่มขืนแตงโม ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดของสำนวนส่วนนี้เพราะเอกสารเยอะมากและยอมรับว่าสะเพร่าเพราะอ่านไม่ละเอียด เพียงแต่เซ็นชื่อไปเท่านั้น แต่ตนทราบผลของการชันสูตรศพแตงโมซึ่งระบุชัดเจนว่าไม่มีการข่มขืนเกิดขึ้น ดังนั้นยืนยันว่าปอกับโรเบิร์ต ไม่ได้ข่มขืนแตงโม

นางพนิดา กล่าวอีกว่า นาย ช.ได้หายตัวไปพร้อมกับยักยอกเงิน 4 แสนบาทซึ่งปอกับโรเบิร์ต จ่ายเยียวยาให้ตนในคดีแตงโม ซึ่งนาย ช.นำเงินไปเข้าบัญชีของตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยักยอกเงินอีกส่วนของตนและเงินโบนัสของทนายในคดีไปร่วม 150,000 บาท รวมเงินที่ถูกยักยอก 550,000 บาท ซึ่งตนจะไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง ในวันนี้

ส่วนค่าใช้จ่ายทั่วไปในคดีนี้ มีค่าทนายความ 3 คน ค่าเอกสาร เครื่องปริ๊นเตอร์ คอมพิวเตอร์ และเงินค่าปลาสลิดหลายกิโลกรัมที่นาย ช.อ้างว่าให้ตนซื้อไปฝากผู้ใหญ่ ระยะเวลาเกิดเหตุตั้งแต่เดือน ก.ย. 2566 ซึ่งตนยังไม่ได้ทำเรื่องถอนทนายความของคดีนี้ออก

สำหรับปัญหาระหว่างทนายเดชาที่เคยเกิดขึ้นนั้นเพราะมีความเห็นในคดีไม่ตรงกัน คือตนเชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรม แต่ทนายเดชาเชื่อว่าเป็นเหตุประมาท จึงยกเลิกการแต่งตั้งเป็นทนาย

ขณะที่ทนายเดชา ยอมรับว่าเพิ่งทราบว่านางพนิดาจะมอบหมายให้เป็นทนายในคดีอีกครั้งในวันนี้ ดังนั้นต้องไปศึกษารายละเอียดก่อน เพราะนางพนิดามาหาในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน เนื่องจากตอนนี้นางพนิดายังมีทนายความอยู่ในศาล ซึ่งตามมารยาททนายความแล้ว นางพนิดาต้องไปถอนทนายคนเดิมออกก่อน แต่ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่ถือว่าผิดมารยาททนาย