2 อดีตเมีย ถูก’โบ้’ซ้อมสาหัส ผวา ร้องขอ ก.ยุติธรรม คุ้มครอง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ม.ค.67 ที่ กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย พาผู้เสียหาย 2 รายที่ถูก นายธนวัฒน์ หรือโบ้ อายุ 34 ปี อดีตแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ประกอบด้วย น.ส.อภิญญา อายุ 39 ปี แจ้งความไว้ที่ สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี และ น.ส.ชุติมา อายุ 32 ปี แจ้งความไว้ที่ สน.ประชาชื่น นอกจากนี้เมื่อปลายปี 66 นายโบ้ถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย น้องแพรว อายุ 32 ปี พีอาร์สาว เสียชีวิตในท้องที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี

ทั้งนี้ น.ส.อภิญญา และน.ส.ชุติมา ผู้เสียหาย ประสานงานมาทางเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอเข้ายื่นเรื่องรับการคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเกรงว่าหากนายโบ้ได้ประกันตัวในชั้นศาลอาจถูกทำร้ายอีกและอาจถึงขั้นเสียชีวิต โดยมีนายปริญญ์วัฒน์  เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข และ น.ส.จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผอ.สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายเอกภพ กล่าวว่า  น.ส.อภิญญา และน.ส.ชุติมา ถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก โดยคดีในส่วนน.ส.ชุติมา สน.ประชาชื่นได้อายัดตัวนายโบ้ ไว้ดำเนินคดีแล้ว ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้ง2คนมาที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายโบ้ตั้งแต่ได้รับแจ้งความตอนแรก น้องแพรวก็คงไม่เสียชีวิต เพราะจากคำบอกเล่า นายโบ้เกิดย่ามใจหลังจากทำร้ายแล้วไม่ถูกดำเนินคดี จึงไปทำร้ายน้องแพรวจนเสียชีวิต อยากฝากเจ้าที่ตำรวจว่าอย่าปฏิเสธความรับผิดชอบ ต้องดำเนินคดีกับนายโบ้จนถึงที่สุด จะได้หลาบจำ

นายเอกภพ กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย พร้อมต่อสู้เอาผิดนายโบ้ให้ถึงที่สุด แต่หวั่นเกรงว่าหากนายโบ้ได้รับการประกันตัวอาจกลับมาทำร้ายทั้งคู่ได้ จึงทำเรื่องขอรับการคุ้มครองพยานและดูแลเรื่องเงินเยียวยาค่าเสียหายพร้อมขอให้ติดตามความคืบหน้าทางคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

น.ส.อภิญญา กล่าวว่า เคยถูกนายโบ้บีบคอจนสลบ และถูกตบหน้าให้ฟื้นขึ้นมาอีก ซึ่งพฤติกรรมความรุนแรงของนายโบ้เป็นตั้งแต่ช่วงคบหากันแรกๆ นอกจากนี้ นายโบ้เคยพยายามบุกไปบ้านพักของแม่และน้องสาวตน รวมถึงจะทำร้ายร่างกายครอบครัวของตนด้วย พยายามพังประตูและใช้มีดแทงเข้าไปภายในห้อง แต่แม่ตนหลบทันจึงไม่เป็นอันตราย ที่ผ่านมาเคยแจ้งความในส่วนที่ครอบครัวเกือบถูกทำร้ายร่างกาย แต่ที่ตัวเองถูกทำร้ายยังไม่เคยแจ้งความ เพราะถูกนายโบ้ข่มขู่ สุดท้ายต้องหนีไปอยู่บ้านแฟนเก่า

“นายโบ้เหมือนมีอารมณ์สองขั้ว เวลาดีก็ดีสุดจะตามใจทุกอย่าง แต่ถ้าอารมณ์ร้ายก็เอาไม่อยู่ คบหากันมา 8 เดือน ค่อนข้างทุกข์ทรมานมาก ส่วนสาเหตุที่ทำให้ในวันนี้ต้องลุกขึ้นมาเพราะเราเห็นว่าเขาไปฆ่าคนตาย”น.ส.อภิญญา กล่าว

ด้าน น.ส.ชุติมา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีอาการนอนไม่หลับ กลัวว่านายโบ้จะกลับมาทำร้ายซ้ำ หากได้รับการประกันตัว โดยในส่วนของตนเคยถูกกล้อนผม โทรศัพท์ตามราวี และเคยบุกไปตามถึงจ.ลพบุรี

นายปริญญ์วัฒน์  เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กล่าวว่า กรณีที่ร้องเรียนว่าคดีความยังไม่มีความคืบหน้านั้น ทางกระทรวงยุติธรรมจะติดตามคดีให้ ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียหาย ทราบว่ายังไม่มีการยื่นหรือแจ้งสิทธิจากทางพนักงานสอบสวน ดังนั้น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงจะดูแลเรื่องเงินเยียวยา ส่วนที่ผู้เสียหายเกรงกลัวว่าหากผู้กระทำผิดได้รับการประกันตัวแล้วจะกลับมาทำร้ายร่างกาย ล่าสุดทราบว่านายโบ้ถูกอายัดตัวไว้แล้ว แต่เราก็จะดำเนินการในเรื่องของจัดชุดคุ้มครองพยานให้ เพื่อคลายความกังวลของผู้เสียหาย

ด้าน น.ส.จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผอ.สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับประเด็นการขอรับเงินเยียวยาของผู้เสียหาย จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่สอง) พ.ศ. 2559 ดังนี้ กรณียังไม่เสียชีวิต จะได้รับการพิจารณา สำหรับจำนวนเงินชดเชยเยียวยาค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดนั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัด แต่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหาย ทางกระทรวงยุติธรรมจะรับคำขอทั้งหมดไว้ และจะรีบนำเสนอแก่คณะอนุกรรมการพิจารณา ส่วนการขอคุ้มครองพยาน เราก็จะดำเนินการจัดชุดเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานให้ด้วย