'บิ๊กโจ๊ก' ซัดแท็กซี่โกงราคามิเตอร์ ระวังไม่มีงานทำ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ลงพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต ตามจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตามนโยบายเมาไม่ขับ No drink No drive พร้อมกำชับว่ารถโดยสาร 1 คัน ต้องมีคนขับ 2 คน และจากการตรวจผู้ขับขี่ต้องแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ยังไม่พบ ใครมีค่าแอลกอฮอล์ ยืนยันหลังจากเทศกาลปีใหม่ จะบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มข้น 

ส่วนจุดอันตรายที่ สส.พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยข้อมูล รับทราบขับมูลแล้ว เป็นเรื่องที่ประชาชนกลัว ได้สั่งการให้ สน.บางซื่อและกทม. ติดตั้งไฟส่องสว่าง จัดสายตรวจเพิ่มขึ้น ในส่วนพื้นที่ไหนที่ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งมาได้ที่ Traffy Fondue 

ส่วนปัญหารถแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซต์โกงราคาค่าโดยสารนั้น กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ซ้ำซากมาช้านาน เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อ แม้จะมีไม่มาก แต่ได้กำชับสารวัตรจราจร ต้องจับกุมดำเนินคดีจริงจัง พร้อมฝากคนขับแท็กซี่ "หากยังมีพฤติกรรมแบบนี้ ท่านก็จะไม่มีงานทำ ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนมาใช้บริการท่าน ช่วงนี้เป็นโอกาสของท่า ต้องซื้่อสัตย์ต่ออาชีพ" รวมถึงกำชับไปยังภูเก็ตและสมุยที่มีการร้องเรียนเข้ามาด้วย"

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตรวจเยี่ยมและรับชมการรายงานสดสภาพจราจรด้วยโดรนและกล้อง CCTV ในโครงการ Traffic forward ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร หรือ บก.จร. โดยปิดเผยว่า สภาพการจราจรเทศกาลปีใหม่ ทุกหน่วยมีการตื่นตัวบูรณาการกันอย่างไร้รอยต่อ ทำให้รถที่ออกจากกทม. แม้จะหนาแน่นแต่ก็ไม่ถึงขั้นเคลื่อนตัวไม่ได้ โดยตำรวจจราจรใช้โดรนมาช่วยในหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นสายอีสาน เหนือ ใช้ระบบ AI และ WIFI จะเห็นว่ามีรถออกไปแล้ว 7 หมื่นคัน คาดว่าค่ำนี้จะรถจะออกมากขึ้น แต่น้อยกว่าเมื่อคืนนี้แล้ว เน้นย้ำถนนมิตรภาพ สามารถช่องทางด่วน M6 ได้แล้ว ยาวไปถึงวงแหวนโคราช ไปชัยภูมิ ขอนแก่น อุดร ได้อย่างสะดวก 

โดย 7 วันอันตราย เริ่มตั้งแต่คืนของวันที่ 28 ธ.ค. ขณะนี้มีเสียชีวิตไปแล้ว 15 ศพ อุบัติเหตุอีก 17 ราย ทางตำรวจตั้งลิมิตเอาไว้ ว่าต้องไม่เกิน 44 ราย ซึ่งการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดในเมืองรอง ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานที่บ้านเกิด ดื่มกิน  และขับรถ ไม่สวมหมวกกันน็อก หรือ เมาแล้วขับ ใช้ชีวิตอย่างประมาท