'อดีต Mrs.Thailand World' ร้องโดนนำภาพ ชื่อ โฆษณาอาหารเสริม หวั่นกระทบ รพ.ดัง

28 ธ.ค. 2566 ที่ สำนักงานทนายคลายทุกข์  ดร.พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล อดีต Mrs.Thailand World  2022 บริหารโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 พร้อม ดร.มานะ เตชะไพฑูรย์ สามี เดินทางเข้าปรึกษา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกรณีถูกแอบอ้างนำรูปภาพตัวเองไปใช้ในการทำธุรกิจหลอกลวงให้ลงทุน แบรนด์อาหารเสริมยี่ห้อดัง และมีผู้เสียหายมาร้องเรียนที่โรงพยาบาล 

 

ภายหลังเข้าพบทนายเดชา แล้ว ดร.พิมพ์ขวัญ พร้อมสามี แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเคยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับผลิตภัณฑ์น้ำนมแม่ของแบรนด์ดังกล่าว โดยมีการเซ็นสัญญาระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่ 3 ม.ค 2566 ถึง 3 ม.ค. 2567 โดยในสัญญาระบุเพียงแค่ว่าจะใช้ตนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 แต่กลับพบว่าแบรนด์ดังกล่าวได้นำชื่อของโรงพยาบาลไปแอบอ้างด้วย
 

 

 

เมื่อช่วงเดือนกันที่ผ่านมา ตนเองกับผลิตภัณฑ์ แบรนด์ดังกล่าวได้มีการยกเลิกสัญญากันไปแล้ว โดยทางเจ้าของแบรนด์อ้างว่าตนเป็นปฏิปักษ์กับแบรนด์จึงทำการยกเลิกสัญญา เนื่องจากตนได้ติดตามทวงถามเงินค่าจ้างแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกจำนวน 900,000 บาทที่ยังค้างไว้

 

แต่หลังจากที่มีการยกเลิกสัญญา ก็ยังคงพบว่าทางผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ยังคงใช้ภาพใบหน้าของตนเองโปรโมทบนกล่องผลิตภัณฑ์และสื่อโฆษณาตามช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนัก ทำให้ที่ผ่านมามีผู้บริโภคพากันมาร้องเรียนทางโรงพยาบาลฯ และร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ว่าใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้วไม่เห็นผล 

 

 

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการขายสินค้าให้กับตัวแทนนำไปสต๊อกไว้โดยมีการเชิญชวนให้หลงเชื่อว่าจะได้รายได้เกรงว่าอาจจะเข้าข่ายลักษณะของแชร์ลูกโซ่ วันนี้ตนจึงต้องออกมาชี้แจงว่าไม่เคยเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่เคยการันตีถึงรายได้ที่จะได้รับจากการนำสินค้าไปขาย และทางโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ดังกล่าวแต่อย่างใด
 

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่าแบรนด์ดังกล่าวมีการโฆษณาเกินจริง ผลิตภัณฑ์มี อย.อยู่ในหมวดอาหารเสริม แต่สินค้ากลับระบุว่าเป็นสมุนไพร รวมถึงอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ไม่ว่าจะเป็น กู้น้ำนม, เพิ่มน้ำนมได้จริง, ปลอดภัยต่อทารก, บุคลากรทางการแพทย์ยอมรับ, ด๊อกเตอร์ยอมรับ ฯลฯ ซึ่ง ดร.พิมพ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง 

 

จึงอยากให้ทางสำนักงานอาหารและยา (อย.) เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นห่วงกลุ่มลูกค้าที่ซื้อไปใช้เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นกลุ่มอาหารของแม่และเด็ก ซึ่งมีความละเอียดอ่อน เกรงว่าอาจจะส่งผลต่อผู้บริโภคได้

 

 

 

 

ด้านทนายเดชา ระบุว่า จากนี้จะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานหากสิ่งที่แบรนด์ดังกล่าวทำให้ทาง ดร.พิมพ์ขวัญ เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือมีผลกระทบจนทำให้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากการนำใบหน้าและชื่อของโรงพยาบาลไปแอบอ้างใช้ ก็จะต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายต่อไป รวมถึงยังอยากให้ทางสำนักงานอาหารและยา เข้ามาตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกต้องหรือมีการโฆษณาเกินจริงหรือไม่ด้วย

 

หลังจากนี้ ดร.พิมพ์ขวัญ เตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ต่อไป