ข่าว

เจ้าของบาซาร์ ย้าย 'ครูกายแก้ว' แค้นแอบขายไดโนเสาร์ ทำนทท.กลัว ผิดสัญญา รฟท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ไพโรจน์' เจ้าของบาซาร์ เผยสาเหตุย้าย 'ครูกายแก้ว' แค้นแอบขายไดโนเสาร์ 4 ตัวช่วงส่งไม้ต่อบริหาร ทำนทท.กลัว และผิดสัญญา รฟท. พร้อมยึดเป็นตัวประกัน แสดงตัวต้องจ่าย 1.3 ล้าน

นายไพโรจน์ ทุ่งทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสวนลุมไนท์บาร์ซาร์ รัชดาภิเษก จำกัด และเจ้าของโรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก แถลงข่าวกรณีย้ายรูปปั้น "ครูกายแก้ว" ออกจากบริเวณหน้าโรงแรมว่า ตนเป็นผู้ก่อตั้งร่วมกับนายเสริฐศิริ โดยมีนายชาญ ตุลยาพิศิษฐ์ชัย เข้ามาร่วมถือหุ้นในภายหลัง แต่ช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ตนติดโควิด ทำให้ร่างกายอ่อนแอ จึงแต่งตั้งในศาลซึ่งเปรียบเสมือนพี่ชายเข้ามาดูแลต่อเพื่อฟื้นฟูกิจการกับศาลล้มละลายกลาง เมื่อมอบอำนาจแล้ว ทำให้นายชาญมีอำนาจบริหาร แต่มาย้ายไดโนเสาร์ 4 ตัว และตัวเล็กๆอีก 6-7 ตัวของตนไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต่างเรียกกันว่าโรงแรมไดโนเสาร์ออกไป

นายไพโรจน์ ทุ่งทอง

แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะตอนหลังเอาครูกายแก้วมา ซึ่งตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งจึงเปิดตัวว่าเป็นผู้ถือหุ้น 80% เพียงแต่มอบหมายให้คุณชาญมาบริหารในช่วงฟื้นฟู โดยให้เขาเป็นผู้ทำแทน และต้องการให้บริหารแห่งนี้ให้มีความสะอาดปลอดภัยบริการถึงใจประชาชนและผู้ใช้บริการ แต่ไม่นึกว่าจะไล่พนักงานชุดเก่าแก่ตั้งแต่สวนลุมไนท์บาซาร์ที่แรกออกทั้งหมด รวมถึงนำครูก่ายแก้วเช้ามาตั้ง ตนจึงเปิดตัวว่า ไม่เห็นด้วยและคัดค้านฟ้องศาล เพื่อให้ดำเนินการนำครูก่ายแก้วออกไป ปัจจุบันนี้ศาลให้ความยุติธรรมต่อตน 

 

ส่วนไดโนเสาร์ของตน พบว่า นายชาญนำไปขายที่จ.นครสวรรค์ ในราคา 2.4 ล้านบาท แต่ลงบัญชีที่บริษัทว่า 240,000 บาท ก็ไปฟ้องศาลว่า เกิดการนำทรัพย์สินของบริษัทไปขายโดยที่ตนไม่รู้ นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเพิ่มกรรมการบริหารจาก 3 คนเป็น 5 คน ทำให้ตนไม่มีอำนาจ สุดท้ายได้รับความยุติธรรมจากศาล ตนได้กลับมาเป็นผู้บริหารเหมือนเดิม เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 66 โดยศาลตัดสินว่าเป็นการทำแผนไม่สุจริตและไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการทำแผน

ดังนั้นเมื่อตนได้กลับมาบริหารอีกครั้ง จึงถือเป็นการกลับมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสะอาดปลอดภัยและถูกใจคนใช้บริการ 

 

สำหรับการเคลื่อนย้ายครูกายแก้วออกจากหน้าห้าง นายไพโรจน์ กล่าวว่า ตนได้เอาไปไว้หลังโรงแรมและเอาผ้าคลุมไว้ ยืนยันไม่ได้ลบหลู่ ซึ่งมีทั้งคนศรัทธาและไม่ได้ศรัทธา แต่ตนทำตามประเพณีนิมนต์พระสงฆ์มาสวดอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเพื่อให้ถูกต้อง เมื่อสักครู่แสดงตัวเป็นเจ้าของ แต่ก็ต้องมาเสียค่าปรับ เพราะตนได้มีการเสียค่าปรับไปแล้ว เนื่องจากผิดกฎหมายผิดสัญญากับรฟท.และกทม. เนื่องจากไม่สามารถสร้างอาคารได้ในระยะล่น 15 เมตร พร้อมเล่าว่าเมื่อเช้าตนจ้างรถยก 4 คัน แต่มีคนมาจ่ายเงินและบอกให้กลับไป จนตนต้องไปเรียกรถยกจากอีกบริษัทมาแทน พอจะยก ก็มีคนไปบอกว่าห้ามยก ถ้ายกจะฟ้อง 

 

ส่วนที่มีบุคคลอ้างว่าเป็นการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต นายไพโรจน์ กล่าวว่า เราไม่กลัว เพราะเค้าไม่ได้ทำสัญญากับแบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ และเราไม่ได้เซ็น ถือเป็นการทำสัญญาที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเค้าอาจจะไม่รู้ คงเสียทรัพย์ทสร้างครูกายแก้วพอสมควร ก่อนหน้านี้เราทำหนังสือไปแล้วให้ย้ายออก เพื่อที่เสร็จก่อนปีใหม่ กลับให้ลานนั้นมามีชีวิตชีวา พร้อมยืนยันไม่รู้จักกับบริษัทครูกายแก้ว เป็นการเซ็นสัญญาระหว่างผู้บริหารชุดก่อนหน้านี้ ขณะที่ตนไม่ได้เป็นผู้บริหาร (ก่อนศาลมีคำสั่ง) การทำธุรกรรมตอนนั้นตนไม่สามารถทราบได้ เพราะไม่ได้แจ้งตน 

 

"ตรงนี้เป็นโรงแรมไม่ใช่สำนักจอมขมังเวทย์ เพราะฉะนั้นท่านไม่เหมาะอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน ทัวร์จีนบอกกลัวไม่กล้ามา ถ้ายังไม่ย้ายออก เพื่อธุรกิจเดินต่อไป เพื่อเอาใจชาวโซเชียลที่ได้กรุณาให้คำแนะนำเต็มไปหมด ผมไปดูแล้วใน facebook tiktok 99% ไม่เคยมีใครอยากให้อยู่สักคน และอีกอย่างคือ ไม่ใช่สิ่งสักการะของคนไทย ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีไทย จึงเชิญท่านไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม ใครจะเอาไปก็แจ้งความประสงค์มา" 

 

นายไพโรจน์เชื่อว่าการนำครูไกรแก้วออกไปจะไม่มีผลต่อธุรกิจ แต่กลับจะดีขึ้น ดีขึ้นมากๆ ตั้งแต่ปีใหม่นี้จะมีทัวร์กลับมาเหมือนเดิมทุกอย่าง พนักงานที่ออกไป ตอนนี้เรียกกลับมาเกือบ100% ตอนที่เค้าไล่พนักงานพวกนี้ออก ผมจ่ายเงินเดือนคนพวกนี้อยู่ตลอด พร้อมหางานให้ 

 

รักคุณฉันนั้นขนาดนี้คณะกรรมการมีมติปลดออกจากการเป็นผู้บริหารและทุกตำแหน่งเหลือเพียงผู้ถือหุ้นธรรมดา ยอมรับการปลดครั้งนี้คือจากปัญหารูปปั้น40% ที่สำคัญเอาไดโนเสาร์ตนไปขาย

 

เจ้าของบาซาร์ ย้าย \'ครูกายแก้ว\' แค้นแอบขายไดโนเสาร์ ทำนทท.กลัว ผิดสัญญา รฟท.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ