ยธ-สธ. ปล่อยคาราวานย้าย 'ยาเสพติด' ของกลาง 340 เตรียมเผาทำลายพรุ่งนี้

25 ธ.ค. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นประธานพิธีปล่อยขบวนรถขนย้ายยาเสพติดของกลาง จากกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี  ไปยัง นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ  เพื่อเตรียมเผาทำลายาเสพติดของกลาง ครั้งที่ 57 โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี

 

 

 

 

การเผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการตามโครงการ Set Zero เผาทำลายยาเสพติดของกลางในคลังยาเสพติดทั้งหมด  ซึ่งมีของกลางยาเสพติดที่จะเผาทำลายจำนวน 340  ตัน จาก 836,081 คดี  มากที่สุดเท่าที่เคยมีการเผาทำลายมา  

 

ในจำนวนนี้เป็นเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) มากสุดกว่า 156,399 กิโลกรัม รองลงมา คือ เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์)   เฮโรอีน  และยาเสพติดอื่นๆ  โดยกาขนย้าย ยาเสพติดของกลางมีการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตลอดเส้นทางทั้งทางบกและทางอากาศ

 

 

 

 

สำหรับการเผาทำลายยาเสพติดของกลาง จะแบ่งเผาทำลาย 2 ช่วง

- ช่วงที่หนึ่ง จำนวน 110 ตัน ใช้เวลาในการเผา 8 วัน ตั้งแต่ วันที่ 26 ธ.ค. 2566-2 ม.ค. 2567   

- ช่วงที่ 2 อีก 230 ตัน จะเผาทำลายตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.-2 ก.พ. 2567  

 

 

 

 

โดยใช้งบประมาณ รวม 9  ล้านบาท  น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า การขนย้ายยาเสพติดของกลางจากกระทรวงสาธารณสุข ไปยัง บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ วันนี้  เพื่อเตรียมเผาทำลายในวันพรุ่งนี้ ( 26 ธ.ค. 2566) ใช้ระบบเตาเผาอุณหภูมิสูง 1,800 องศาเซลเซียสในการเผาทำลายยาเสพติดของกลาง ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษสิ่งแวดล้อม

 

 

 

 

โดยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ว่าจะต้องไม่มีของกลางเหลืออยู่ เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัยว่ายาเสพติดของกลางไปอยู่กับใคร ถูกนำมาเวียนหรือไม่  

 

ที่ผ่านรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ว่าต้องทำให้การปราบปรามยาเสพติดเห็นผลภายใน 1 ปี

 

 

 

 

โดยหลัง Set Zero แล้ว  จากนี้จะมีการเผาทำลายยาเสพติดต่อเนื่องทุกเดือน เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล หากมีการจับกุมและพิสูจน์ของกลางได้ว่าเป็นสารเสพติด ก็สามารถเผาทำลายได้เลยไม่ต้องรอให้สิ้นสุดคดี  โดยจะให้ อย.จะทำหน้าที่ดูแลในการเผาทำลาย ใช้งบประมาณจากกองทุนที่มีอยู่  คาดว่าใน 1 เดือน  จะมีของกลางยาเสพติดที่ต้องเผาทำลาย 100-150 ตัน 

 

 

 

ส่วนการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ด้วยหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย  กระทรวงสาธารณสุขได้มีการจัดเตรียมสถานพยาบาลรองรับผู้ป่วยที่จะต้องเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู  ซึ่งปัจจุบันตัวเลขของผู้เสพยาเสพติดประมาณ 1.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้เสพที่มีอาการ ต้องเข้ารับการบำบัดรักษา ประมาณ 5 แสนคน โดยกระทรวงสาธารณสุข จะจัดตั้ง "มินิธัญญารักษ์" ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการบำบัดฟื้นฟูผู้ที่ติดยาเสพติดที่ใกล้บ้าน เข้าถึงได้ง่าย ดูแลผู้ป่วยยาเสพติดระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย Quick Win ที่วางไว้