'ธนกฤต' เดือดรับไม่ได้ เด็ก 6 ขวบและสาวออทิสติก 21 ปี ถูกชายอ้างเป็นร่างทรงอนาจาร บุกถึงสำนักไร้เงา ชาวบ้านลั่นขัดออกจากพื้นที่สำเร็จ ปิดหมู่บ้านฉลอง
นายบัญชา ปานนิวัฒน์ ประธานชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้ นำผู้แม่หญิงสาวออทิสติกวัย 21 ปี และ แม่เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ร้องขอความเป็นธรรมกับนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี หลังถูกชายรายหนึ่ง ซึ่งอ้างตนเป็นร่างทรงมีอิทธิฤทธิ์ เปิดสำนักอยู่ในพื้นที่ พระราม 2 ล่อหลวงลูกสาวของทั้งคู่ไปกระทำอนาจาร
แม่ของหญิงสาว 21 ปี ที่เป็นออทิสติก เล่าว่า ตนเป็นลูกศิษย์ของชายรายนี้มากว่า 5 ปี เนื่องจากมีความเลื่อมใส ศรัทธาในคำสอน ที่เชื่อมโยงกับหลักศาสนาพุทธ โดยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา บุคคลดังกล่าวใช้ความสนิทสนมเดินทางมาหาตนที่บ้านพัก ในจ.นครสวรรค์ เสนอตัวว่าจะพาลูกสาวตนไปนั่งรถเล่น เพราะอ้างว่าลูกสาวตนนั้นเป็นคู่บารมีในอดีตภพชาติก่อน และในชาตินี้ได้เกิดมาเป็นคู่บารมี ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไร
เวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ก็กลับมาส่งและเดินทางกลับ กทม. จนกระทั่งช่วงค่ำในวันนั้น ตนพบร่องรอยต่างๆบนร่างกายลูกสาว จึงได้ถาม ลูกจึงบอกว่า ถูกพาเข้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งและกระทำอนาจาร และย้ำห้ามบอกแม่ จากนั้นตนจึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองบัว แต่กลับถูกโทรมาข่มขู่ในลักษณะอ้างว่า มีอาวุธปืนในครอบครอง ตนจึงไปถอนแจ้งความเพราะกลัวและห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ที่มาร้องเรียนวันนี้ เพราะทนไม่ได้ที่ลูกต้องถูกกระทำอนาจาร จนลูกได้รับผลกระทบมีอาการหวาดกลัวเวลาต้องตรวจร่างกาย ก็จะขัดขืนอย่างรุนแรงเพราะมีเรื่องฝังใจ ดังนั้นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านแม่ของเด็กหญิง 6 ขวบ เล่าว่า ได้เข้ามาติดตามชายรายนี้ผ่านช่องทางไลฟ์ในแอพพลิเคชั่น tiktok เพราะเห็นว่ามีความสามารถในการนั่งสมาธิได้นานไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง จึงได้ติดต่อขอเข้ารับการฝึกสอน ได้ทำการนัดวันเวลา แต่ตนขอเลื่อนเนื่องจากลูกสาวกำลังไม่สบาย ชายรายนี้จึงบอกว่าให้พามาหาตน เพราะจะสอนนั่งสมาธิให้หายจากอาการป่วยโดยไม่ต้องหาหมอ เมื่อพาตัวลูกสาวไปที่สำนักในพื้นที่พระราม 2 ชายรายนี้อ้างว่าให้นำเด็กสาวนอนที่สำนัก เนื่องจากต้องสอนนั่งสมาธิภายใน 1 วันก็จะทำให้มีความเชี่ยวชาญได้ ตนจึงยอม เพราะเห็นว่าในสำนักมีลูกศิษย์อีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงจึงวางใจ จนกระทั่งอีกวันที่ตนไปรับลูก ลูกบอกว่าละเมิดทางเพศ ตนจึงโกรธและเข้าแจ้งความที่ สน.แสมดำ ภายหลังมีหลักฐานที่ชายรายนี้มอบเงินให้กับตำรวจแลกกับอิสระจากการให้ประกันตัวในชั้นศาล และล่าสุุดก็ได้ประกันตัวออกมาแล้ว
จากนั้นนายกองตรีธนกฤตพาผู้เสียหาย มาแจ้งความเพิ่มเติมกรณีถูกข่มขู่ที่ สน.แสมดำ และสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องอาวุธปืนที่ร่างทรงคนนี้นำมากล่าวอ้างใช้ข่มขู่ผู้เสียหาย และลงพื้นที่ไปยังสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งตั้งอยู่ในพระราม 2 ซอย 76 แยก 4 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร พบว่าสำนักดังกล่าวได้ปิดให้บริการ
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกให้ข้อมูลว่า สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวเปิดมานานกว่า 20 ปี ซึ่งช่วงแรกที่มาอยู่นั้น ร่างทรงคนดังกล่าวยังพูดจาคุยดี แต่ผ่านไปไม่นานก็เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว ด่าทอชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะเวลาที่ชาวบ้านตักบาตรพระสงฆ์ ร่างทางมักจะออกมาด่าทออยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุกวันที่ 23 ตุลาคม ร่างทรงจะมีการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นไปบนฟ้า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเฉลิมฉลองให้กับพระเจ้าที่ตนนับถือ แต่ชาวบ้านไม่เห็นพฤติกรรมแบบนี้มานานหลายปีแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายเรื่อง พ.ร.บ. อาวุธปืน ที่มีอัตราโทษหนัก สุดท้ายนี้ชาวบ้านอยากให้ร่างทรงตนดังกล่าวย้ายออกไปจากหมู่บ้านให้เร็วที่สุด ถ้าทำได้จริง จะถึงขั้นปิดหมู่บ้านฉลอง
จากการลงพื้นที่ ผู้สื่อข่าวพบว่า บริเวณโดยรอบของสำนักปฏิบัติธรรม ต่างรายล้อมไปด้วยรูปปั้นต่าง ๆ นานา อาทิเช่น รูปปั้นฤาษี ยักษ์ และพระพุทธรูป เป็นจำนวนมาก และจุดที่ตั้งอยู่ของสำนักปฏิบัติธรรม พบว่ามีการลักลอบใช้บริเวณทางแยกของหมู่บ้านเป็นที่ตั้ง มีการรุกล้ำถนนออกมาเป็นจำนวนมาก
ขณะที่นายกองตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะให้ทางตำรวจดำเนินการตรวจสอบว่า ร่างทรงคนดังกล่าวเป็นผู้มีอิทธิพลจริงหรือไม่ มีการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐด้วยหรือไม่ และได้ขออนุญาตเปิดสำนักปฏิบัติธรรมถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็จะให้ตำรวจดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งตนรับไม่ได้กับพฤติกรรมสุดชั่วช้าของร่างทรงคนดังกล่าวที่มีการหาอนาจารเด็กอายุ 6 ขวบ รวมทั้งเด็กที่ป่วยเป็นออทิสติก
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา หนูสลุง ผกก.สน. แสมดำ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนเรียกร่างทรงคนดังกล่าว มาแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องที่มีภาพปรากฏว่ามีตำรวจของสน. แสมดำ ตำแหน่งรองสารวัตร รับเงินจากร่างทรงในศาลนั้น ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่า เป็นแค่เรื่องการยืมเงินเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามได้ให้นายตำรวจคนดังกล่าว ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในงานส่วนอื่นแทนแล้ว พร้อมกับให้ความเชื่อมั่นกับผู้เสียหายว่า ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนพาผู้เสียหายไปร้องขอให้ศาลถอนการประกันตัวชั่วคราวในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง