ข่าว

PR. สาวร้องโดน 7 ตร.ชุดสืบจังหวัด 'อุ้มรีดเงิน-ขืนใจ' แลกเปลี่ยนข้อหาเสพยา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวพีอาร์ร้านอาหาร ร้อง "เพจสายไหมต้องรอด" โดน 7 "ตร.ชุดสืบฯ ภ.จ.ปทุมธานี" รีดเงิน 3 แสน แลกเปลี่ยนข้อหาเสพยา ให้สามี หนำซ้ำยังพาไปขืนใจในโรงแรมย่านรังสิต

12 ธ.ค. 2566 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำ น.ส.เอ (นามสมมุติ) พีอาร์สาว ผู้เสียหาย และสามี เข้าร้องทุกข์ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ผ่านนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี

 

โดยผู้เสียหายและสามี ถูกกลุ่มชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี จำนวน 7 นาย เข้าจับกุมข้อหาครอบครองยาเคตามีนเพื่อเสพ โดยเรียกเงิน 3 แสนบาทแลกกับการเปลี่ยนข้อหาเป็นครอบครองยาบ้า 2 เม็ด และพาฝ่ายหญิงไปข่มขืนที่โรงแรมย่านรังสิต

PR. สาวร้องโดน 7 ตร.ชุดสืบจังหวัด อุ้มรีดเงิน-ขืนใจ แลกเปลี่ยนข้อหาเสพยา

 

น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 20.00น.ซึ่งตนกำลังไปทำงาน ก็มีตำรวจขับรถเข้ามา 3 คัน ล้อมรถของตนและขอตรวจค้นโดยไม่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะพบยาเค ซึ่งตนยอมรับว่าซื้อมาจากนายกอล์ฟ ลูกค้าที่มาเที่ยวในสถานบันเทิง ซึ่งน่าจะเป็นสายลับของตำรวจ โดยตนซื้อมาเพื่อให้แฟนหนุ่มเสพ

 

และก่อนจะเดินทางออกไป ตำรวจได้สั่งให้เอากล้องหน้ารถออก พร้อมตรวจสอบบัญชีธนาคารตน พบว่ามีเงินในบัญชีจำนวน 360,000 บาท ตำรวจก็บอกว่า "อยากช่วยสามีหรือไม่"  และรีดเงินจำนวน 3 แสนบาทแลกกับการเปลี่ยนข้อหาครอบครองยาเคเพื่อเสพเป็นครอบครองยาบ้า 2 เม็ดซึ่งโทษจะรุนแรงน้อยกว่า  

 

น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกหวาดกลัว จึงยอมให้พาไปกดเงินที่ตู้เอเทีเอ็ม 2 แห่ง ขณะนั้นตำรวจก็นั่งรอในรถ และสั่งให้ตนลงไปกดเงินคนเดียว แต่มีรายหนึ่งลักษณะตัวอ้วนผิวดำบอกว่า "กูช่วยคุยกับนายแล้ว จะให้อะไรบ้าง" ตนปฏิเสธว่าไม่มีแล้ว เขาก็บอกว่า “มึงไปเอากับกู” แล้วก็พาตนไปขืนใจที่โรงแรมย่านรังสิต

 

ด้าน นายบี (นามสมมุติ) สามี ของ น.ส.เอก กล่าวว่า หลังก่อนเหตุ ตำรวจพาตนไปดำเนินคดีที่ สภ.ธัญบุรี จากนั้นหลังประกันตัวออกมา ก็สังเกตเห็นแฟนสาวมีอาการผิดปกติ ไม่ค่อยพูดจา จึงพยายามเค้นสอบถาม ก่อนรู้ความจริงจึงมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ตนยังทำใจไม่ได้ จากนี้จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกแล้ว

 

นายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวนอกจากจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติหน้าที่มิชอบตามกฎหมายอาญา ม.157 ยังเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ป้องกันการอุ้มหาย ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยตนจะเกาะติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดกับหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ นอกจากการติดตามคดีในพื้นที่ โดยแยกเรื่องการเสพยาเคเป็นคนละส่วน เพราะมีการอุ้มตัวไปรีดทรัพย์สินด้วย

 

ทั้งนี้ มีรายงานอีกว่า ตำรวจ 7 นายที่ก่อเหตุมียศไล่ตั้งแต่ ร.ต.ต.ตำแหน่ง รอง สว.สส.ไปจนถึง ส.ต.ต.ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ