ตร.เร่งไขปม 'เมียจ่าทหาร' ดับปริศนาใน 'บ่อขยะ' เชื่อไม่ใช่ปลิดชีพตัวเอง

2 ธ.ค. 2566 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าในคดีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.ประกายแก้ว (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ภรรยาจ่าทหาร ที่พบศพอยู่ใน บ่อขยะ ภายในแฟลตทหารกองทัพภาคที่ 1 ย่านพญาไท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

โดย พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากมีการสอบพยานที่ใกล้ชิดและที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก มีการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หรือ การฆาตกรรม เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นปิด คนนอกเข้าไม่ได้ การสอบพยานใกล้ชิดค่อนข้างจะครอบคลุมแล้ว แต่ก็ยังมีอีกบางประเด็นที่จะต้องพิสูจน์ทราบสาเหตุที่แท้จริง

 

 

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีการรายงานข่าวว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายในพื้นที่บางนานั้นไม่เป็นความจริง ส่วนข้อเท็จจริงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้นในขณะที่พบศพนั้นไม่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายในที่เกิดเหตุ

 

พล.ต.ต.อรรถพล  ยังกล่าวอีกว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานในบางประเด็น ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก 2-3 ประเด็น ก็จะสามารถชี้ชัดถึงสาเหตุได้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม แต่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน และสภาพศพก็ไม่ได้มีบาดแผล โดยผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จะทราบในสัปดาห์หน้า เช่น ผลการตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกาย

 

 

 

 

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล เปิดเผยว่า ให้ส่งชุดสืบสวนไปสนับสนุนร่วมคลี่คลายคดีด้วยแล้ว คาดว่าคดีจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
 

 

 

ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจ พบว่า เป็นการเสียชีวิตของ ภรรยาจ่าทหารรายดังกล่าวผิดธรรมชาติ และมีเงื่อนงำ อาจจะไม่ใช่การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น จากร่องรอยบางอย่างในที่เกิดเหตุด้วย อีกทั้งจากการตรวจสอบข้อมูลจากทางครอบครัว ก็ยังไม่พบมูลเหตุจูงใจที่จะทำให้ผู้เสียชีวิตไปก่อเหตุฆ่าตัวตายได้ รวมถึงวิธีการฆ่าตัวตายในลักษณะนี้ ก็ยังไม่สอดคล้องความเป็นจริง

 

 

 

 

ทั้งนี้จากการที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น จึงยังอยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานและความเชื่อมโยงในชนวนเหตุต่างๆ ทั้งเรื่องหนี้สิน ชู้สาว และอื่นๆ โดยยังไม่ประเด็นใดทิ้ง รวมถึงกรณีของการเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงมาเสียชีวิตเองด้วย โดยคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะยังอยู่ระหว่างสืบสวนหาพยานหลักฐาน ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตที่หายไป ที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี

 

 

 

 

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตได้ไปติดต่อรับศพ น.ส.ประกายแก้ว ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ แล้วโดยมีกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 1 เดินทางมาด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทำข่าว และสัมภาษณ์ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ก่อนจะนำไปบำเพญกุศลที่วัดตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา