ข่าว

เสียตัว-สูญเงิน 14 ล้าน ‘นักธุรกิจสาว’ ร้องมท.โดนหมอดูดัง หลอกว่าถูกคุณไสย

26 พ.ย. 2566

'นักธุรกิจสาว' ร้องมหาดไทย หลังถูก ‘หมอดูชื่อดัง’ ระดับประเทศ หลอกว่าถูกคุณไสยมนต์ดำ มารู้ตัวอีกที เสียทั้งตัวเสียทั้งเงินไปกว่า 14 ล้านบาท คาดมีหญิงสาวถูกหลอกลักษณะเดียวกัน กว่า 100 คน

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 266 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี นักธุรกิจสาว เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังจากที่ตนเองถูกหมอดูชื่อดังระดับประเทศสำนักอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี หลอกลวงว่าตนถูกคุณไสยมนต์ดำ สามีกำลังจะมีเมียน้อย ต้องรีบแก้คุณไสยจนเสียตัวและเสียเงินกว่า 14 ล้านบาท

 

 

ซึ่ง น.ส.เอ กล่าวว่า ตนรู้จักกับหมอดูดังรายนี้ช่วงปลายปี 2564 ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย จากนั้นตนได้ลองดูดวงผ่านทางโทรศัพท์ โดยเสียค่าดูครั้งแรก 300 บาท ซึ่งตนเห็นว่ามีหลายเรื่องที่หมอดูคนนี้ทักได้อย่างแม่นยำ จึงเกิดความเชื่อถือ

 

ต่อมาต้นปี 2565 ตนได้ซื้อบ้านย่านดอนเมือง จึงได้ติดต่อหมอดูคนนี้มาดูฮวงจุ้ยบ้าน หลังจากดูฮวงจุ้ยเสร็จ หมอดูได้ทักว่าตนมีสีหน้าหมองคล้ำคล้ายถูกคุณไสย ตนจึงตกใจ และพูดไปว่า

 

 

“อาจารย์รู้ได้ยังไง เพราะช่วงหลังหนูรู้สึกเหมือนนอนไม่ค่อยหลับชอบฝันเห็นสิ่งลี้ลับ” หมอดูรายดังกล่าวจึงได้พูดต่อทันทีว่าให้รีบแก้นะ ไม่งั้นจะไม่ทันการณ์

 

 

จากนั้นหมอดูได้เรียกให้ตนขึ้นไปบนห้องนอน เพื่อทำพิธี 2 ต่อ 2 โดย หมอดูได้ให้ตนใส่เสื้อผ้าแบบชุดนอน จากนั้น หมอดูได้นั่งลงบนเก้าอี้และเรียกให้ตนมานั้งตักโดยให้หันหน้าเข้ามาหาหมอดู จากนั้นหมอดูได้บอกว่าให้ตนเองทำเหมือนเวลาทำกับผัว โดยหมอดูได้มากอด จูบ ลูบคลำตนเอง ตอนนั้นตนตกใจมาก จึงได้นั้งอยู่นิ่งๆ จากนั้นสักพัก หมอดู ก็บอกว่าเสร็จพิธีแล้ว ให้ลองดูอาการว่าหายหรือไม่

 

 

หลังจากผ่านไปประมาณ 1 เดือน ตนเองก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่ดีขึ้น จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามหมอดูคนดังกล่าวอีกครั้ง คราวนี้ หมอได้นัดให้ไปหาที่สำนัก โดยอ้างว่าจะให้มานั้งสมาธิไหว้พระ ตนจึงได้เดินทางไปหา พอไปถึงสำนัก ตนสังเกตุเห็นภายในสำนัก มีรูปหมอดูคนดังกล่าวถ่ายคู่กับดารา นางเอก นักการเมือง คนมีชื่อเสียงจำนวนมาก จึงเกิดความเชื่อถือเข้าไปอีก จากนั้นหมอดูได้ให้ตนทำแบบเดิมอีก ตอนนั้นตนไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นวิธีการรักษา

 

เสียตัว-สูญเงิน 14 ล้าน ‘นักธุรกิจสาว’ ร้องมท.โดนหมอดูดัง หลอกว่าถูกคุณไสย

 

ต่อมาช่วงเดือน มีนาคม 2565 หมอดูชื่อดัง คนดังกล่าว ได้ดูดวงตนและทักว่าตอนนี้สามีตนนอกใจไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นหลายคนแล้วตนรู้บ้างหรือไม่ พอได้ยินคำนี้ ตนเสียใจมาก เนื่องจากขณะนั้นสามีทำงานเยอะจึงไม่ค่อยมีเวลาให้กัน จึงทำให้เป็นจังหวะเหมาะกับที่หมอดูพูด

 

 

จากนั้นหมอดูจึงเสนอว่ามีวิธีแก้ ให้รีบเดินทางมาพบด่วน ตนจึงเดินทางไป จากนั้นหมอดูได้ให้ตนเข้าไปในห้องนอนที่สำนักฯ และให้ตนถอดเสื้อผ้าทั้งหมด และบอกว่าจะลงของเพื่อเรียกให้สามีกลับมาด้วยวิธีการสมสู่ ตอนนั้นตนทำอะไรไม่ถูกเพราะเสียใจเรื่องที่หมอดูบอกสามีมีภรรยาน้อย จึงยอมหลับนอนด้วย

 

 

หลังจากนั้น หมอดูคนดังกล่าวได้พยายามพูดยุให้ตนตัดขาดกับสามีตลอดเวลา พูดว่าสามีตนมีคนอื่น เวลาตนไม่ได้อยู่กับสามีหมอดูก็จะพูดว่า ตอนนี้เห็นว่าสามีกำลังมีความสุขอยู่กับผู้หญิงอีกคน พยายามพูดต่างๆนาๆ ยุให้บล็อคแชท บล็อคไลน์ จนสุดท้ายตนต้องเลิกกับสามีตนเอง

 

 

จากนั้นหมอดูชื่อดัง ได้บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่สามีกำลังหลงผู้หญิงคนอื่นหนักมาก ต้องให้ตนไปคบหากับหมอดู ทำตัวให้เหมือนเป็นผัวเมียกัน เพือเพิ่มพลังให้ตนเอง แล้วสุดท้ายสามีจะกลับมา ตนหลงเชื่อจึงได้ปฏิบัติตาม โดยระหว่าที่ตนไปมาหาสู่กับหมอ ทุกครั้งที่ไปเจอตนจะต้องเสียค่าทำพิธีทุกครั้งๆละหลักพันถึงหลักหมื่นบาท

 

 

นอกจากนี้ยังถูกหลอกให้โอนเงินไปทำพิธีต่างๆอีกหลายครั้ง โดยรวมๆตั้งแต่ต้นปี 2565 - ปัจจุบันสูญเงินไปแล้วกว่า 14 ล้านบาท 

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น ตนได้ทราบข้อมูลจากหญิงสาวรายอื่นที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกับตนอีกจำนวนมากไม่ตำกว่า 100 ราย ตนเห็นว่าบุคคลดังกล่าวเป็นภัยสังคมมากๆ จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ

 

 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากนักธุรกิจสาวรายดังกล่าว ได้แนะนำให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ สลิปการโอนเงิน และติดต่อผู้เสียหายรายอื่นๆเข้าแจ้งความดำเนินคดี ตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ต่อไป

 

เสียตัว-สูญเงิน 14 ล้าน ‘นักธุรกิจสาว’ ร้องมท.โดนหมอดูดัง หลอกว่าถูกคุณไสย

 

เสียตัว-สูญเงิน 14 ล้าน ‘นักธุรกิจสาว’ ร้องมท.โดนหมอดูดัง หลอกว่าถูกคุณไสย