'ผู้การจ๋อ' แฉ ฟันเฟืองบนร่างกายแก๊งทรชน บ่งบอกชั้นยศเปรียบ 4 เหล่าทัพ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล เผยความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายในคดียิงน้องหยอด นักศึกษาอาชีวะอุเทนถวายและครูเจี๊ยบว่า พบเครื่องหมายสัญลักษณ์ฟันเฟืองบนร่างกาย หัวไหล่ และเสื้อช็อป ของกลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ เป็นรูปแบบองค์กรอาชญากรรมอย่างชัดเจน ทีมหัวหน้าทีม หัวหน้าปฏิบัติการชุดต่างๆ โดยแต่ละเฟืองมีการระบุ เรื่องราวต่างๆเช่น เคยก่อเหตุมาแล้วกี่รรั้งหรือตำแหน่งคล้ายยศของ 4 เหล่าทัพ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ให้การถึงความหมาย ตำรวจต้องตรวจสอบอย่างละเอียด 

ซึ่งการประทับตราฟันเฟืองบนร่างกาย นำเหล็กไปเผาไฟก่อนจะนำมาประทับในร่างกาย แสดงให้เห็น ระดับชั้นจากการก่อเหตุแต่ละครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ คือ คนที่เราเข้าทลาย safe house โดยส่วนมากจะมีฟันเฟืองจำนวนมากบนร่างกายแสดงให้เห็นว่า ตรงนั้นเป็นสำหรับชั้นแนวหน้า ใช้คำว่าไม่ธรรมดา ตอนนี้เยอะสุดเห็นมี 4 เฟือง เห็นได้จากคนนี้นั่งบนเก้าอี้เลย ทางฝ่ายสืบสวนถือว่าเป็นประเด็นย่อย แต่ก็ได้มีการเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด

ส่วนเรื่องประเด็นแม่ของ 1 ผู้ต้องหา ไม่เชื่อว่าลูกชายของตนเองเป็นผู้ร่วมขบวนการ เพราะแค่แม่ด่าลูกยังร้องไห้แล้ว พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากถึงผู้ปกครองว่า อยากดูพฤติกรรมของลูกอย่างละเอียด ว่าลูกมีพฤติกรรมอย่างไรถึงมานั่งบ่นแคร่หรือเก้าอี้ไม้ และการจะถูกยกย่องเป็นถึงผู้นำในขบวนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย แสดงว่าต้องมีพฤติกรรมที่ทำให้ขบวนการดังกล่าวยกย่องเชื่อถือได้ แต่แม่อาจจะไม่มีข้อมูลซึ่งยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใส่ร้ายใคร

ส่วนกรณีที่ขบวนการดังกล่าวนำรูปนายศตวรรษ นักศึกษาร่วมสถาบันที่ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา บริเวณจรัญสนิทวงศ์ มาติดพร้อมนำพวงมาลัยมาคล้องคล้ายกับการเชิดชูผู้เสียชีวิตและปลูกเร้าให้ขบวนการฮึกเหิมในการแก้แค้นคู่อริ พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า เรื่องดังกล่าว ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัว โดยทางตำรวจไม่เคยบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นแกนนำของกลุ่มนี้ แต่เป็นเหยื่อถูกใช้มาเป็นเครื่องมือในการมาแก้แค้นคู่อริ เพื่อชักชวนนักศึกษาที่เป็นผ้าขาวให้มีอุดมการบิดเบี้ยวป่วยในสังคม ขณะเดียวกันได้นำแฟ้มคดีนี้กลับมาทำอีกครั้ง รวมถึงคดีอื่นที่เคยเกิดขึ้น เอากลับมาสืบสวนทั้งหมด เนื่องจากรู้แล้วว่า ขบวนการนี้กลุ่มหลักอยู่ตรงนี้

เช่นคดีบุกยิงกลางงานแต่งในพื้นที่ สน. สุทธิสาร เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 65 เหตุยิง ซอยกำนันแม้น เดือนกรกฎาคม ปี 65 เบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 คดีมีความเชื่อมโยง

สำหรับการติดตามตัว 2 คนร้ายที่ในคดียิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ตำรวจกำลังตั้งใจทำงาน ขอเวลาทำงาน ผู้สนับสนุนทางด้านต่างๆ เช่น การเงิน ก็เชื่อว่าจะหนีได้ไม่นาน วันนี้มุ่งเน้นทำลายรากฐานก่อน เช่นเดียวกับรถ จยย. ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ยังติดตามอยู่ ขณะที่กลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มไลน์ 84 คน พล.ต.ต.ธีรเดช ยิ้มเป็นคำตอบ  

ส่วนที่เมื่อวานนี้มีเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวไปเยี่ยมที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ อ้างว่า ไม่ได้รู้จักกับขบวนการดังกล่าว แต่กลับให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน มองว่า บุคคลดังกล่าวน่าจะรู้จักคนภายในและขบวนการนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นตำรวจก็จะต้องมีการเชิญ มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน 

พร้อมขอบคุณชายคนดังกล่าวที่ออกมาระบุว่า ขอให้ “ดูหลักฐานต่อสู่ในชั้นศาล ” ซึ่งคำพูดของชายคนดังกล่าว ทำให้ชุดสืบมีกำลังใจ แรงใจ ทำงานมากขึ้น มั่นใจตำรวจมีพยานหลักฐาน 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะแสดงต่อศาลเอาผิดได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงขอใช้คำพูดน้องคนเมื่อวาน "เดี๋ยวต้องไปดูกันที่ชั้นศาล"

"เป็นหน้าที่อยู่แล้ว เราไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ที่ที่เดินอยุ่บนถนนแล้วไม่รู้เรื่อง รวมถึงนักศึกษาที่ตั้งใจไปเรียน ในสถาบันที่มีชื่อต้องเอามาถูกสังสาร หรือถูกลูกหลงแบบนี้ ในกรุงเทพต้องปลอดภัย ในกรุงเทพต้องไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น" พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว