ย้อนรอยคดี 'เพชรซาอุ' ผุดตำนาน 'ชลอ เกิดเทศ'

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2532 คดีดังระดับตำนาน ที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ ระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบีย มานานกว่า 30 ปี และเพิ่งจะเริ่มคลี่คลายได้ไม่นาน หลายคนที่อยู่ในยุคนั้น น่าจะนึกถึง คดี “เพชรซาอุ” ที่มีความเกี่ยวพันกับคดีฆ่า “สองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขันฑ์” และ “ชลอ เกิดเทศ” คมชัดลึก พาย้อนรอยคดีดังในตำนาน กับ “คดีเพชรซาอุ”

  

ย้อนรอยคดี เพชรซาอุ

 

 

6 ส.ค. 2532 “เกรียงไกร เตชะโม่ง” คนงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด แห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ได้ขโมยเครื่องเพชร ทอง และอัญมณีอื่นๆ ขนกลับประเทศไทย ซึ่งเชื่อกันว่า ในกลุ่มอัญมณีจำนวนมากที่เขาโจรกรรมมานั้น มีเพชรที่เรียกว่า “บลูไดมอนด์” ซึ่งเป็นเพชรล้ำค่าประจำราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียรวมอยู่ด้วย

 

 

เมื่อกลับมาถึงบ้านเกิด จ.ลำปาง นายเกรียงไกร ได้กระจายอัญมณีที่ขโมยมาออกขายตามแหล่งต่างๆ เนื่องจากเครื่องเพชรเหล่านั้นแยกยาก เขาจึงขายมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยส่วนใหญ่ถูกขายให้กับช่างทำเพชรพลอยชาวกรุงเทพฯ “สันติ ศรีธนะขันฑ์”

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน ทางการซาอุดิอาระเบีย ได้แจ้งมายังรัฐบาลไทย ให้ช่วยติดตามเพชรคืน โดยกรมตำรวจในสมัยนั้นได้ตั้ง “พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ” ผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ ในขณะนั้น เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน จนตามจับกุมตัวนายเกรียงไกรได้ โดยศาลพิพากษาจำคุก ในข้อหาลักทรัพย์ 7 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือ 3 ปี 6 เดือน

คดีเหมือนจะจบ แต่ไม่จบ เมื่อทางการไทยส่งตัวแทนไปคืนเครื่องเพชรกับทางการซาอุดิอาระเบีย แต่กลับพบว่า เพชรสีน้ำเงิน หรือ บลูไดมอนด์ หายไป และเครื่องเพชรประมาณครึ่งหนึ่งเป็นของปลอม นอกจากนี้ มีข่าวลือในสื่อไทยว่า ภาพถ่ายในงานเลี้ยงการกุศล พบว่าภรรยาของข้าราชการหลายคน สวมสร้อยคอเพชรที่คล้ายกับเครื่องเพชรที่ถูกโจรกรรม ทำให้ซาอุดีอาระเบียสงสัยว่า ตำรวจไทยยักยอกเครื่องเพชรเอาไว้เอง

 

 

จากนั้น คณะทำงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงได้ไปเจรจาและข่มขู่ “สันติ ศรีธนะขันฑ์” ให้คืนเพชร แต่นายสันติไม่ยอมคืน จึงมีการจับตัวภรรยาและลูกชายของนายสันติไปกักขังเพื่อต่อรอง สุดท้ายตำรวจในคณะทำงาน ได้ฆ่าปิดปาก “สองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขันฑ์” แล้วไปสร้างสถานการณ์อำพรางให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุรถชน

ต่อมากรมตำรวจได้ตั้งทีมสอบสวนชุดใหม่ และรื้อคดีย้อนกลับไป จึงพบว่าเป็นการอุ้มฆ่าของทีม พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงมีการจับกุม พล.ต.ท.ชลอ พร้อมลูกน้องรวม 9 คน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

จากนั้น มีความพยายามในการตามหาเพชรซาอุ จากซาอุดิอาระเบีย โดย นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์ซะอูด เดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อสืบสวนด้วยตนเอง เขาหายสาบสูญไปในวันที่ 12 ก.พ.2533 และสันนิษฐานว่าถูกฆ่า นอกจากนี้ ยังมีนักการทูตชาวซาอุดีอาระเบีย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน ซึ่งคดีเหล่านี้ยังไม่ได้ข้อยุติมาจนปัจจุบัน

 

 

แต่คดีในส่วนของ พล.ต.ท.ชลอ สิ้นสุดแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต แต่เนื่องจาก พล.ต.ท ชลอ อายุมาก และรับโทษมาอย่างยาวนาน จึงได้สิทธิพักโทษ ออกมาใช้ชีวิตนอกเรือนจำ

 

 

5 พ.ย. 2553 พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ถูกถอดยศ พล.ต.ท. เหลือเพียง “ชลอ เกิดเทศ” และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด ปัจจุบันอายุ 85 ปี

 

 

22 มี.ค. 2562 ศาลฎีกาพิพากษาปล่อยตัวนายตำรวจ 5 นาย ในคดีลักพาตัวและฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย

 

ส่วน “เกรียงไกร เตชะโม่ง” ตัดสินใจบวชตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2559  ที่วัดท่ามะเกว๋น ม.3 ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง ปัจุบันนายเกรียงไกรอายุ 67 ปีแล้ว โดยการตัดสินใจบวชของนายเกรียงไกร ในครั้งนี้ เพื่อล้างอาถรรพ์ของ “เพชรซาอุ” และอุทิศบุญกุศลแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี และผู้เสียชีวิต

 

 

คดีเพชรซาอุ จนถึงวันนี้ ก็ยังส่งเพชรคืนไม่ครบ โดยเฉพาะเพชร “บลูไดมอนด์” ประจำราชวงศ์ สร้างความไม่พอใจให้กับซาอุดิอาระเบียเป็นอย่างมาก จึงลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และมีนโยบายไม่รับแรงงานไทยเข้าไปทำงาน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและไทย เสื่อมลงเป็นเวลา 30 ปี ก่อนความสัมพันธ์ค่อยกลับมาเป็นปกติในปี 2565