ข่าว

จุกอก ตำรวจจ่อ 'เอาผิดผู้ปกครอง’ ปล่อยลูกหลาน ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

22 พ.ย. 2566

รอง ผบช.น. เผยคดีในลักษณะนี้ผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ที่มีอายุระหว่าง 16 ปีขึ้นไป แต่มีประวัติก่อเหตุซ้ำซาก จึงต้องพิจารณา ‘เอาผิดผู้ปกครอง’ เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนพ่อแม่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของลูกหลานในการก่อเหตุ จะให้ความเป็นธรรม

ปัญหานักเรียนนักเลง ยกพวกตีกันในอดีตต้องหลบไป เมื่อยุค 2566 ยกระดับเป็น ‘นักเรียนยิงกัน’ ไม่สนกฏหมายบ้านเมือง หรือใครจะโดนลูกหลงบ้าง ดูอย่างเคสยิงเด็กอุเทนถวาย พลาดไปคร่าชีวิตครูเจี๊ยบ เหตุุเกิดกลางกรุง เล่นเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจกุมขมับเมื่อผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน แต่ล่าสุดยิงนักเรียนเทคนิคดับ ล่าสุดระดับบิ๊กตำรวจ มีไอเดียชวนจุกๆ

 

วงจรปิดจับภาพ นาทีนักเรียนยิงกัน เป็นเหตุให้นักเรียนเทคนิคดุสิตเสียชีวิตคาที่

 

 

 

โดยเมื่อวันนี้(22 พ.ย. 2566)พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เดินทางมาที่ สน.ดุสิต เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ‘นักเรียนยิงกัน’ หรือกรณีนักเรียนเทคนิคดุสิต ถูกยิงเสียชีวิต พร้อมเผยว่า ผู้ต้องหาจับมาได้ทั้ง 2 คน ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้การครบถ้วนทุกประเด็นแต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนผู้ก่อเหตุรายที่ 3 ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

 

พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

 

ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน และและดำเนินการขอศาลออกหมายจับ ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้ จากการข่าวทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ไม่น่าจะมีการติดต่อเขามอบตัวแต่อย่างใด

 

โดยสิ่งต่อไปตำรวจจะมีการพิจารณาคือ การ เอาผิดผู้ปกครอง หากตรวจสอบแล้วพบว่าลูกหลาน เคยมีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายซ้ำซาก และผู้ปกครองรับรู้พฤติกรรม แต่ปล่อยปะละเลย เพิกเฉยให้ไปก่อเหตุซ้ำหลายครั้ง ก็อาจจะพิจารณาลงโทษผู้ปกครองด้วยเช่นเดียวกัน 

 

"คดีในลักษณะนี้ผู้ตกต้องหามักจะเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 16 ปีขึ้นไป และเคยมีประวัติก่อเหตุซ้ำซาก จึงต้องมีการพิจารณาเอาผิดผู้ปกครองเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนพ่อแม่ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของบุตรหลานในการก่อเหตุ ก็จะให้ความเป็นธรรมเหมือนกัน"

 

 

ส่วนคดีที่นักศึกษาอุเทนถวาย ยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดจนเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 11 พ.ย.2566 จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนเป็นขั้นตอน ตั้งแต่รีดไถเงินซื้ออาวุธปืน สลับรถ เปลี่ยนแปลงสีรถ ปลอมป้ายทะเบียนรถ เป็นต้น

 

 

ก็มีการพิจารณาเรื่องของการลงโทษเรื่องของการฟอกเงิน เพื่อเป็นยกระดับการใช้ข้อกฎหมายในการเอาผิด สำหรับคดีในลักษณะนี้ จุดชนวนน่าจะเกิดมาจากความเชื่อที่ผิด การปลูกฝังจากรุ่นพี่ ซึ่งถือเป็นเรื่องยากของตำรวจที่จะเข้าไปป้องกัน