ข่าว

'ต๊ะ บอยสเก๊าท์' เผย 'นักเรียนตีกัน' ยุคใหม่รุนแรงถึงขั้นชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ต๊ะ บอยสเก๊าท์' เผย ปัจจุบัน 'นักเรียนตีกัน' รุนแรงมากขึ้น อดีตตบเข็มขัด-เสื้อช็อป เตือนรุ่นน้องรักชีวิต ห่วงครอบครัว อย่าตามเพื่อน ลั่นนักเลงไม่มีจริง มีแต่หมาหมู่

ต๊ะ บอยสเก๊าท์ หรือ นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ นักร้อง นักแสดง ซึ่งเป็นอดีตศิษย์เก่าวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมกรุงเทพ โรงเรียนช่างหนัง กล่าวถึงปัญหานักเรียนอาชีวะทะเลาะวิวาทกันต่อเนื่อง เกี่ยวข้องกับสถาบัน หรือบุคคลหรือไม่ ว่า มีส่วนทั้งสอง เด็กดีอยู่ที่ตัวเด็กพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ โรงเรียนและครูอาจจะดี

 

แต่สำคัญกว่า คือ เพื่อนร่วมห้อง ที่จะมีผลต่อตัวเขา และเป็นตัวบ่งบอกว่า เขาจะมีภาวะแบบไหน ยอมรับคนในสถาบันเดียวกันมีตีกันบ้าง ซึ่งนักเรียนช่างมีค่านิยมอย่างหนึ่งคือ เมื่อไหร่ใส่เสื้อช็อปเหมือนใส่ชุดออกรบ แต่น้องๆยังอยู่ในวัยที่ยังไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว บางครั้งยังขาดการยอมรับขาดความอบอุ่น จึงแสดงออกไปแบบนั้น โดยที่อาจจะไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อไหร่ที่เพื่อนอยู่ในกลุ่มจำนวนมาก ฮอร์โมนผู้ชายจะหลั่งให้ฮึกเหิม หากแข่งกันในเรื่องที่ดีก็ดี แต่ถ้ามันอยู่ในสังคมที่แข่งกันเรื่องเลวๆ ก็ยิ่งรุนแรง 

ซึ่งที่ผ่านมามองว่าไม่ได้แก้ปัญหาจริงจัง อดีตยังไม่มีสื่อโซเชียล การจะตีกันต้องเจอหน้ากันจริงๆ เป็นดักรอที่ป้ายรถเมล์ แต่ทุกวันนี้การสื่อสารมีการท้ารบกัน ต่างจากอดีตที่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ตีกันแค่เอาอาย เอาหัวเข็มขัด เอาเสื้อช็อป แต่ทุกวันนี้พัฒนาไปจนยิงกันแล้ว ลูกหลงถูกคนที่ไม่รู้เรื่อง ต้องบอกว่าเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี พัฒนาความรุนแรงมาจนถึงทุกวันนี้ 

 

ส่วนจะแก้ปัญหาอย่างไร อันดับแรกต้องเริ่มจากครอบครัวก่อน เด็กพวกนี้ขาดการยอมรับ ขาดความอบอุ่น พ่อแม่อยากเอาแต่ทำงานแล้วปล่อย เชื่อว่าถ้าสถาบันครอบครัวอบอุ่นจริงๆเขาจะมีทางเลือกมากกว่านี้

ทั้งนี้ฝากถึงเด็กสมัยใหม่ว่า ถ้าจำเป็นที่จะต้องเรียนสายนี้จริงๆ ต้องระวังตัวและก็อย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยง ไปโรงเรียนไม่ควรใส่เสื้อช็อป มีวิธีหลบหลีกหลายทาง ส่วนพวกที่ล้อแหลมนั้น เพื่อนเป็นตัวสำคัญมาก ทุกคนจะคิดว่า ไปเพราะเพื่อน รักเพื่อน จึงอยากจะบอกให้รู้ว่าในวันที่เราเจ็บหรือพิการเพื่อนพวกนั้นจะหายไปทันที แต่คนที่รับเคราะห์ คือ พ่อแม่ญาติพี่น้องของเรา อยากให้ตระหนักนิดนึงไม่ใช่ตามเพื่อน 

 

"ถึงเวลาเพื่อนพวกนั้นถ้าให้เลือกตาย เขาก็ไม่เลือกตัวเอง ไม่บังแทนเราแน่ๆ คำว่าเพื่อนพวกนั้น เมื่อน้องโตขึ้นจะรู้ว่ามันมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนในชีวิต เพื่อนไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ไม่สามารถตายแทนเพื่อนได้ ถ้าน้องจะตายแทนเพื่อน ตายแทนพ่อแม่ดีกว่าเพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนพยายามคิดถึงพ่อแม่และครอบครัวให้มาก"

 

ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ยังกล่าวว่า คำว่า นักเรียนนักเลงนั้น ไม่มีจริง คุณมาคนเดียว เขาก็รุมคุณตาย ไม่มีซุปเปอร์ฮีโร่เหมือนในหนัง ไม่มีนักเลงจริงมีแต่หมาหมู่ อันธพาล อย่าบอกเลยว่าคุณนักเลง และหากไม่ปรับตัวรับรองได้จะจบไม่ตายก็พิการ

 

นอกจากนี้ ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ยังเล่าประสบการณ์ สมัยเรียนอาชีวะ เคยโดนโรงเรียนคู่อริยิงมา 2 ครั้ง แต่โชคดีที่ปืนไม่ลั่น รวมถึงเคยโดน 20 กว่าคนเข้ามารุมตนที่อยู่ลำพัง ขณะรถเมล์ ซึ่งเป็นรถสายที่มีคู่อริของโรงเรียนหนึ่ง จ้องจะเล่นงานอีกโรงเรียน ตอนนั้นมีเด็กๆรุ่นน้องปี 1 จำนวน 4 คน มาหาเรื่องเรา แต่เราไม่ยอม เราสู้ ในใจคิดว่าเราสู้ไหวจากนั้น 4 คนนั้นได้หันไปโบกมือเรียกพวกอีกกว่า 20 คนที่แอบอยู่ออกมาทั้งหมด 

 

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เกือบตาย สู้แบบหมาจนตรอกและก็รอดชีวิตมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งถ้าวันนั้นไม่รอดมาได้ พ่อแม่ก็คงสูญเสีย จากนั้นถือว่าโชคดีที่เข้าวงการก่อนและรู้ตัวก่อนว่าสิ่งที่เราทำไม่ใช่สิ่งที่ถูก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ