มอบตัวแล้ว มือยิงนศ.ดุสิตเตรียมมอบตัวอีกราย - ผบ.ตร.หวั่นพฤติกรรมเลียนแบบ
มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนักศึกษาปี 2 วิทยาลัยเทคนิคดุสิต - เตรียมเข้ามอบตัวอีกราย ผบ.ตร.หวั่นพฤติกรรมเลียนแบบ
ความคืบหน้าคนร้ายก่อเหตุยิงนักเรียนนักศึกษาปี 2 วิทยาลัยเทคนิคดุสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนสน.ดุสิต ออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ 1 ราย คือ นายอัครพล ศิริเมฆานนท์ อายุ 22 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และพาอาวุธ(อาวุธปืนและมีด)ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หมายจับศาลอาญา ที่ จ.4091/2566 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566
นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานอีกว่า ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต มีการติดต่อผ่านทางญาติ ว่าจะขอเข้ามอบตัวอีก 1 รายเร็วๆนี้
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกพี่ลูกน้องผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พอจะคาดเดาได้ว่า คนร้ายจงใจจะฆ่าตั้งแต่แรก เพราะได้มีการเตรียมตัวมาก่อเหตุอย่างดี ทั้งมาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุล่วงหน้า 2-3 วัน ส่วนนิสัยของผู้เสียชีวิตนั้น ปกติเป็นคนนิสัยดี รักเพื่อนฝูง และเป็นคนเรียนเก่ง มีผลการเรียนดีมาตลอด ซึ่งเท่าที่ตนเคยพูดคุยกับผู้เสียชีวิต เคยเล่าให้ฟังว่า ในอนาคตอยากรับราชการเกี่ยวกับการก่อสร้าง จึงตัดสินใจเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตไม่เคยมาเล่าหรือปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสถาบันให้ฟังแต่อย่างใด ตนจึงไม่ทราบว่า ปมของการก่อเหตุจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสถาบันหรือไม่ หลังจากที่ตนทราบข่าวตนก็รู้สึกตกใจจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที ซึ่งตนยอมรับว่าวินาทีแรกที่เห็นร่างผู้เสียชีวิต นอนแน่นิ่ง ตนก็รู้สึกอึดอัด พูดอะไรไม่ออก ในฐานะลูกพี่ลูกน้องตนจึงอยากให้ผู้ตายได้รับความเป็นธรรม เพราะดูพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุแล้ว เหมือนจงใจฆ่าผู้ตาย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่าขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 รายจากทั้งหมด 3 คน มีการประสานขอเข้ามอบตัวแล้ว 1 ราย ส่วนแรงจูงใจการก่อเหตุนั้นต้องรอการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถระบุได้ว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสถาบันหรือเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งกรณีที่ผู้เสียชีวิตอายุน้อยนั้นก็ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าเกิดจากเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน
ผบ.ตร. กล่าวว่าสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานเชิงรุก มีการจัดทำแผนการทำงานเชิงรุก ต้องมีการสำรวจจัดทำรายชื่อกลุ่มบุคคล ที่มีแนวโน้มก่อเหตุรุนแรง และความสัมพันธ์ทางสถาบัน มีการจัดกลุ่มคู่ขัดแย้งเพื่อเฝ้าระวังการก่อเหตุ ส่วนการคาดโทษผู้กำกับในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ก็ต้องพิจารณาว่าเมื่อสั่งการไปแล้วมีความกระตือรือร้นจัดทำแผนป้องกันรับมือหรือสำรวจข้อมูลในพื้นที่หรือไม่ หากไม่กระตือรือร้นปฏิบัติตามข้อสั่งการ ก็จะพิจารณาดำเนินการต่อไป พร้อมย้ำว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถแก้ปัญหาฝ่ายเดียวได้ต้องมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน
ส่วนกรณีที่มีภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันจะเข้าฉายในช่วงสัปดาห์หน้านั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข่าวนี้ ส่วนจะส่งผลกระทบต่อสังคมหรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณาเนื้อหาก่อน แต่ส่วนตัวมองว่าควรสื่อสารในทางที่สร้างสรรค์มากกว่าเรื่องความรุนแรง เพราะอาจทำให้เกิดพฤติกรรมการลอกเลียนแบบได้