DSI ขยายผลเข้าค้นห้องเย็นแช่หมู หลังถูกชิปปิ้งแอบอ้างทำเอกสารสำแดงเท็จ
DSI เข้าตรวจสอบห้องเย็น จ.สมุทรสาคร หลังถูกชิปปิ้งแอบอ้างชื่อและสร้างเอกสารปลอมสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ประมง ขณะที่เจ้าของห้องเย็นเตรียมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 นายสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ (DSI) , กรมปศุสัตว์,กรมการปกครอง , และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบบริษัท "รักชัยห้องเย็น" จำกัด ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเจ้าของบริษัทผู้ค้าเนื้อสัตว์แช่แข็งรายใหญ่ฯ และผู้ต้องหาให้การว่าได้นำสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ที่สั่งเข้ามา นำมาฝากไว้ที่สถานประกอบการแห่งนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นตามคำให้การของผู้ต้องหา กลับพบว่าห้องเย็นรักชัย ไม่ได้รับฝากสินค้าแช่แข็งตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง อีกทั้งยังตรวจพบด้วยว่า เอกสารที่ผู้ต้องหาใช้สำแดงต่อเจ้าหน้าที่กรมประมง เป็นการปลอมเอกสารขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารที่ทางห้องเย็นมีไว้เพื่อแสดงหลักฐานอันเป็นข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ DSI อีกทั้งจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ยังเป็นการยืนยันด้วยว่า ห้องเย็นรักชัยแห่งนี้ ไม่มีการรับฝากสินค้าที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายทุกประเภท และการเข้าออกของสินค้าที่รับฝากทุกประเภทนั้น ก็มีเอกสารที่แสดงอย่างถูกต้องชัดเจน
นายสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยหลังการเข้าตรวจสอบว่าคดีนี้สืบเนื่องจากการเข้าจับกุมบริษัทเฮลตี้ และ กู๊ดช๊อป ก่อนหน้านี้ จากนั้นได้ตรวจสอบพบเอกสารที่ผู้ต้องหานำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ว่ามีการฝากสินค้าที่ระบุว่าเป็น หัวปลาแซลมอน ไว้ที่นี่ ทาง DSI จึงได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ปรากฎว่านอกจากโรงงานแห่งนี้จะไม่ได้รับฝากสินค้าที่ผิดกฎหมายแล้ว เอกสารที่บริษัทชิปปิ้งของผู้ต้องหาได้แสดงต่อกรมประมง ว่านำสินค้าจำนวน 282 ตู้มาฝากไว้ที่ห้องเย็นรักชัยนั้น เป็นเอกสารเท็จและมีการแอบอ้างชื่อบริษัทแห่งนี้ เพื่อนำเอกสารเท็จไปสำแดงต่อกรมประมง ที่สำคัญจากการตรวจค้นวันนี้ยิ่งทำให้เกิดความชัดเจนว่าบริษัทที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มีแผนประทุษกรรมในการนำเข้าและหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนของ DSI ก็จะเร่งดำเนินการต่อไปว่า สินค้าจำนวน 282 ตู้ ของกลางที่นำเข้าหมูเถื่อนโดยสำแดงเป็นหัวปลาแซลมอนนั้นได้ถูกนำส่งไปที่ไหน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ด้านนายลือชัย ลือสุขประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทรักชัย ห้องเย็น จำกัด เปิดใจว่า การเข้าตรวจสอบของ DSI ในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการยืนยันความโปร่งใสให้กับทางบริษัทฯ โดยในส่วนของกระบวนการรับฝากสินค้า ได้ให้ข้อมูลกับทางบดีเอสไอแล้วว่าบริษัทมีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนของการรับฝากสินค้าเป็นอย่างมาก ถ้าเอกสารไม่มีมาแสดงก็จะไม่รับของอย่างเด็ดขาด ส่วนที่ถามว่าทำไมทางผู้ต้องหาถึงมีการแอบอ้างบริษัทรักชัยฯ นั้น สันนิษฐานว่าเป็นเพราะห้องเย็นเป็นบริษัทใหญ่และได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และสามารถรองรับสินค้าได้จำนวนมาก ส่วนวันที่ทางผู้ต้องหาจะนำสินค้ามาฝากแล้วบริษัทฯ ปฏิเสธไปนั้น ก็คือเรื่องของการสำแดงเอกสารที่ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อปฏิบัติของทางโรงงาน ซึ่งการที่ผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อบริษัทรักชัย ห้องเย็น จำกัด แล้วยังทำเอกสารอันเป็นเท็จสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ ด้วยนั้น สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก ดังนั้นทางบริษัทฯ ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างแน่นอน เพื่อเรียกความเชื่อมันและเสถียรภาพความน่าเชื่อของบริษัทฯ ให้กลับคืนมาต่อคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป