ข่าว

สืบนครบาล รวบสาว 'บัญชีม้า' หลอกกดรับออเดอร์ ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทปลอม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สืบนครบาล บุกร้านทำเล็บ ย่านพญาไท รวบสาว "บัญชีม้า" หลอกเหยื่อหารายได้เสริมทำงานกดรับออเดอร์สินค้า ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทปลอม

14 พ.ย. 2566  ตำรวจสืบนครบาล จับกุม น.ส.อลิษา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" โดยจับกุมได้ที่บริเวณศูนย์การค้า แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

 

การจับกุม น.ส.อลิษา สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2566 มีผู้เสียหายพบประกาศโฆษณาทางหน้าเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ทำงานสร้างรายได้เสริมผ่านทางออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายสนใจโดยติดต่อสอบถามกับแอดมินผ่านทางไลน์ ชื่อ พลอย ซึ่งจะแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับงานว่าเป็นการสร้างรายได้ด้วยการกดรับออเดอร์สินค้าให้กับร้านค้าในแอปพลิเคชันขายสินค้าชื่อดัง ผ่านแพลตฟอร์มของทางบริษัทฯ เพื่อเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นตามยอดขายสินค้าที่กดรับออเดอร์

 

 

รวบบัญชีม้า หลอกเหยื่อทำงานกดรับออเดอร์สินค้า

 

 

ส่วนขั้นตอนในการทำงาน แอดมินจะส่งลิ้งค์ให้ผู้เสียหายเข้าไปลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้งานแพลตฟอร์มของบริษัทฯ  จากนั้นจะให้ผู้เสียหายเป็นผู้เติมเงินเข้าระบบสมาชิกเพื่อเป็นเงินทุนสำรองจ่ายค่าสินค้า ซึ่งทางแอดมินได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.รสสุคนธ์ ซึ่งในครั้งแรกผู้เสียหายได้ทำตามขั้นตอนที่แอดมินแนะนำและได้รับผลตอบแทนจริง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และแอดมินได้ชักชวนให้ผู้เสียหายทำงานในลักษณะดังกล่าวต่อไปอีก 

 

จากนั้นผู้เสียหายจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารเดิมอีกจำนวน 500 บาท แต่ในวันดังกล่าวแอดมินแจ้งว่าแผนการลงทุนในราคา 500 บาท คิวงานเต็มหมดแล้วยังไม่สามารถทำได้มีแต่แผนการลงทุนที่มีจำนวนสูงกว่านี้ จนกระทั่งวันที่ 8 เม.ย.2565 แอดมินจึงได้ส่งข้อความมาชักชวนให้ผู้เสียหายทำงานอีก


โดยในครั้งนี้ได้ให้ผู้เสียหายเข้าไปพูดคุยกับผู้ใช้ไลน์ชื่อ "คุณครู ญาณิศา ณาดาศิริกุล" เป็นแอดมินเพื่อติดต่อขอรับงาน แนะนำขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งผลตอบแทนในแต่ละระดับให้ผู้เสียหายเลือกว่าจะลงทุนในราคาใด ซึ่งในครั้งนี้ผู้เสียหายตกลงทำแผนลงทุนในราคาเริ่มต้น 500 บาท ซึ่งมีเงินทุนเดิมอยู่แล้วที่โอนเข้าระบบในครั้งก่อนหน้านี้โดยแผนการลงทุนนี้จะต้องรับออเดอร์ทั้งหมด 10 ออเดอร์ผู้เสียหายถึงจะสามารถอนเงินทุนพร้อมผลตอบแทนออกมาได้

 

 

สืบนครบาล บุกร้านทำเล็บ ย่านพญาไท รวบสาวบัญชีม้า

 

 

จากนั้นผู้เสียหายจึงรับทำงานรับออเดอร์ต่อไปเรื่อยๆ จนออเดอร์ในครั้งหลังจะมีราคาสินค้าสูงกว่าเงินทุนที่ผู้เสียหายมีอยู่ในระบบสมาชิก  แอดมินจึงให้ผู้เสียหายโอนเงินทุนเข้าไปเพิ่มเติม โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นางสาวอลิษา (ผู้ต้องหาที่ถูกจับ) ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารดังกล่าว จำนวน 1,500, 4,400 และ 13,000 บาท รวมเป็นเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าไปทั้งหมดจำนวน 19,400 บาท จนถึงออเดอร์ที่10 ซึ่งเป็นออเดอร์สุดท้าย และแอดมินอ้างว่าหากผู้เสียหายทำรายการเสร็จก็จะสามารถถอนเงินทุนพร้อมกับผลตอบแทนออกมาได้ แต่ราคาสินค้าในออเดอร์ที่10 มีราคาสูงกว่าเงินทุนที่ผู้เสียหายมีอยู่ในระบบ


จากการสอบถามเบื้องต้นให้การว่า เมื่อประมาณ ปี พ.ศ 2564 พบประกาศชักชวนให้เปิดบัญชี ทางเพจเพซบุ๊ก (จำชื่อไม่ได้) ตนจึงอินบ็อกเข้าไปพูดคุย โดยตนได้ตกลงเปิดบัญชีให้ ทั้งทางออนไลน์ และไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร หลายธนาคาร   รวมประมาณ 10 กว่าบัญชี โดยได้รับค่าจ้างเปิดบัญชี ประมาณ บัญชีละ 700-1,500 บาท

 

สืบนครบาล บุกร้านทำเล็บ ย่านพญาไท รวบสาวบัญชีม้า

 

 

จากการตรวจสอบหมายจับในระบบฯ ยังพบหมายจับติดตัวอีก 3 หมาย ดังนี้ 

1. หมายจับศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ 126/2565 ลงวันที่ 14 ก.ย. 65 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”                                                                                     

 

2.หมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.183/2566  ลงวันที่ 25 พ.ค. 66 ข้อหา“โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  และร่วมกันฉ้อโกง””

 

3.หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.483/2566 ลงวันที่ 11 ก.ย. 66  ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ