'นายกสมาคมฯถนนข้าวสาร' มอง ปิดผับตี 4 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดึงเม็ดเงินนักท่องเที่ยว ด้าน 'ชัยวุฒิ' ลั่น 'อย่าดัดจริต ขัดกับวิถีชีวิต' กำหนดเวลาขายจำกัดสิทธิประชาชน ขณะที่ 'สรเทพ' หวั่นผู้ประกอบการต้องเสียเงินเพิ่ม
กระแสขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ใน 4 จังหวัด โดยก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุ ขายแอลกอฮอล์ถึงเวลา 02.00 น. ตามกฎหมาย จนสังคมเกิดความเห็นต่าง
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เสนอขยายเวลาปิดผับตี 4 แต่ควรทำเป็นโซนนิ่ง ต้องมีมาตรการควบคุมทั้งพื้นที่เปิดและปิด นำร่องในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวก่อน โดยพื้นที่เปิดเสียงดังจะไปรบกวนชาวบ้านวัดและชุมชน อาจจะเปิดถึงตี 1 ตี 2 จากนั้นต้องปิดเพลง ส่วนจะนั่งถึงตี 4 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ว่าไป ส่วนพื้นที่ปิดสามารถเปิดได้ถึงตี 4 ไม่รบกวน ฉะนั้นเห็นด้วยปิดผับตี 4 แต่ควรทำเป็นโซนนิ่ง
ทั้งนี้กฎหมายกำหนดให้ขายแอลกอฮอล์ถึงตี 2 ไม่เห็นด้วย เพราะเรากำลังดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว ซึ่งมีพฤติกรรมต่างกับคนไทย เพราะเขาไม่เปิดเหล้าเป็นขวดและนั่งดื่มจนหมดเหมือนคนไทย ส่วนใหญ่เขาสั่งเป็นแก้ว ดังนั้นเที่ยงคืนหรือตี 1 พอไม่สามารถขายได้จะให้เขานั่งดื่มน้ำเปล่าต่อหรือ เขาก็กลับบ้านกลับโรงแรม ดังนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร รวมถึงผู้ประกอบการต่อแบกรับ ค่าจ้างพนักงาน นักดนตรี ค่าไฟ ค่าแอร์ เมื่อขายเหล้าไม่ได้แล้วใครจะนั่ง นั่งแล้วไม่สั่ง ผู้ประกอบการจะอยู่ได้หรือไม่
ส่วนความกังวลเรื่องขยายเวลาจะยิ่งเพิ่มสถิติเมาแล้วขับหรือไม่ นายสง่า กล่าวว่า ยกตัวอย่างข้าวสาร 80% รายได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งไม่ได้ใช้รถเลย ทำให้ตัดเรื่องเมาแล้วขับไปได้เลย ดังนั้นควรที่จะมาดูแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก แล้วค่อยมาปรับแก้ไข นำไปเป็นโมเดลที่อื่นและค่อยๆขยาย
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองว่า การกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการจำกัดสิทธิประชาชนและเป็นเรื่องที่ล้าหลังมาก ตั้งแต่คณะปฏิวัติ ซึ่งในชีวิตจริง คนไทยยังไม่รู้ว่ามีกฎหมายฉบับนี้เพราะซื้อได้ตลอด "เราอย่าดัดจริต ขัดกับวิถีชีวิต" ดังนั้นควรแก้กฎระเบียบให้ครบทุกประเด็น
ส่วนการขยายเวลาขาย จะยิ่งทำให้ประชาชนติดหรือดื่มมากขึ้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ทุกวันนี้คนไทยมีสติมีวิจารณญาณรู้ว่าอะไรควร ไม่ได้มีผลต่อการที่ทำให้คนลดหรือเลิกเหล้า วันนี้วิถีชีวิตของคนโดยทั่วไปในสังคมเขาก็มีสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิตเที่ยวดื่มฟังเพลงมีความสุขในรูปแบบต่างๆ
"คนทำงานก็อย่าไปเที่ยว ดูว่าศุกร์เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุด คนก็ไปเที่ยวกัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนที่เขาไม่ต้องทำงาน ก็อยากไปดื่ม วันนี้กฎหมายบางอย่างมองว่าคนไทยไม่มีเหตุผลไม่มีความรู้ กฎหมายเก่าๆก็จะจำกัดกฎระเบียบไว้เยอะมาก เลิกดัดจริต อย่าไปฝืนธรรมชาติเกินไป" นายชัยวุฒิ กล่าว
ด้านนายสรเทพ โรจน์พจนารัช รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะ ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร เกรงว่า มาตรการเช่นนี้จะทำให้กลายเป็นช่องให้มีการจ่ายเงินพิเศษหรือจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางหรือไม่ ซึ่งมองไม่ใช่แค่ผับบาร์ มองในเรื่องของธุรกิจรากหญ้า เช่น ร้านข้าวต้มกลางคืน ร้านส้มตำ ต้องเห็นใจ เพราะร้านเหล่านี้กว่าจะตั้งร้าน กว่าจะขาย เป็นระยะเวลาที่สั้นมาก หากไม่สามารถขายได้ มีแอบขายแน่นอน หากขายได้และควบคุมได้ ไม่จำเป็นต้องตี 4 ยืดไปอีก 1-2 ชั่วโมง ผู้ประกอบการก็ดีใจแล้ว
ส่วนความปลอดภัยบนท้องถนน นายสรเทพ ระบุว่า ทุกวันนี้แทบจะไม่เห็นข่าวเมาแล้วขับ น้อยมาก ต้องแก้จิตสำนึกคนโดยปัจจุบันมีกันมากขึ้น สังเกตได้ว่าคนที่ออกมาดื่มเหล้าส่วนใหญ่จะไม่เอารถมา ยิ่งหากเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว มีแต่ชาวต่างชาติก็จะไม่มีรถอยู่แล้ว รวมถึงการตั้งด่านไม่ต้องตั้งกระจายเหมือนเมื่อก่อน สามารถตั้งด่านได้เป็นจุดๆ ประกอบกับกฎหมายเมาแล้วขับค่อนข้างรุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง