ข่าว

โฆษก อสส. ชี้ศาลเลื่อนนัดตัดสิน 'คดีน้องชมพู่' ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โฆษก อสส." ชี้ ศาลจังหวัดมุกดาหารเลื่อนอ่านคำพิพากษา "ลุงพล-ป้าแต๋น" คดีน้องชมพู่ เหตุอยู่ระหว่างตรวจร่างคำพิพากษา เป็นไปตามระเบียบคดีสำคัญของศาล ยันไร้ผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา

31 ต.ค. 2566  นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีศาลจังหวัดมุกดาหารเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ในคดีการเสียชีวิต น้องชมพู่ ว่า สำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร แจ้งสาเหตุที่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 31 ต.ค. 2566 ออกไปก่อนนั้น เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและในทางปฏิบัติของศาลยุติธรรม ศาลก็จะส่งสำนวนคดีพร้อมคำพิพากษาไปที่สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจตามระเบียบ ก่อนที่จะส่งกลับมาให้กับทางศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสำนวนและตรวจคำพิพากษา ของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 จึงมีเหตุต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป ส่วนจะเลื่อนออกไปวันไหนนั้นศาลจะแจ้งอีกครั้งในวันนี้

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

 

นายประยุทธ ยืนยันว่า การเลื่อนอ่านคำพิพากษาจะไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะกระบวนการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจังหวัดมุกดาหารก็ได้ทำคำพิพากษาตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงและกฎหมายส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตามระเบียบขั้นตอนของราชการศาล 

 

ส่วนลุงพล จำเลยในคดีจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่นั้น  นายประยุทธ ระบุว่าไม่มี เพราะคดีนี้สืบพยานเสร็จสิ้นแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายจำเลยก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพยานหลักฐานไปเพิ่มเติมแล้ว ทุกอย่างอยู่ระหว่างต้องรอศาลนัดอ่านคำพิพากษาเท่านั้น โดยสาเหตุที่ส่งสำนวนและคำพิพากษาให้กับอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ก็เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งเป็นปกติที่ศาลยุติธรรมจะรักษามาตราฐาน เพราะเป็นคดีสำคัญ 

 

 

นายประยุทธ ยังได้กล่าวถึงลักษณะของคดีสำคัญว่ามีหลายเหตุปัจจัย เช่น สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ หรือแม้บางคดีเป็นคดีเกี่ยวกับบุคคลสำคัญของประเทศ หรือคดีอุกฉกรรจ์ กระทบต่อความรู้สึกของคนในสังคม ก็เป็นคดีสำคัญได้ อย่างเช่นคดีนี้ การเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่เป็นเด็ก สื่อมวลชนและสังคมเฝ้าติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง คดีนี้สำนักงานอัยการสูงสุดก็ให้ความสำคัญ โดยมีการตั้งคณะทำงาน ส่งอัยการจากสำนักงานอัยการภาค 4 ร่วมกับสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ในการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตรวจสำนวน ร่างคำฟ้อง และสืบพยานจนเสร็จสิ้น 

 

ทั้งนี้ ขอให้รอฟังคำพิพากษาของศาล ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไร หากคู่ความในคดีไม่เห็นพ้อง ย่อมที่จะสามารถอุทธรณ์คำพิพากษานั้นได้ภายใน 1 เดือน หากอุทธรณ์ตัดสินแล้วยังไม่เห็นพ้องอีก ก็สามารถยื่นฎีกาต่ออีกได้ 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ