ทนาย 'ลุงพล' ชี้ ศาลเลื่อนฟังคำตัดสิน อาจมีผลต่อกระบวนการยุติธรรม

นายสุรชัย ชินชัย ทนายความ พร้อมทีมงาน นายไชย์พล วิภา หรือ 'ลุงพล' และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ 'ป้าแต๋น' ได้เปิดแถลงก่อนที่จะเดินทางไปศาลจังหวัดมุกดาหาร โดย ทนายสุรชัย เปิดเผยว่า การฟังคำพิพากษา จำเลยก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ในการรับฟังคำพิพากษาเพราะผลออกมาได้ทั้งบวกและลบ ถ้าออกมาเป็นลบ ก็หาหลักทรัพย์มาใช้ค้ำประกัน ระหว่างการพิจารณา ของ ศาลอุทธรณ์ ส่วนทนายก็มีหน้าที่มาให้กำลังใจ หรือ อยู่เคียงข้าง ลูกความเพราะเราเดินทางมาด้วยกัน

ทนายสุรชัย มองว่า การเลื่อนของศาลเเบบนี้ยังไม่เคยเจอ แต่จะเลื่อนเพราะเหตุผลใด ก็จะทราบแน่ชัดวันพรุ่งนี้ ข่าวที่ว่าเลื่อนไม่น่าจะมีมูล เพราะบางสิ่งบางอย่างมัน จะมีผลต่อกระบวนการยุติธรรม

ทนายความ เปิดเผยว่า 'ลุงพล' ยืนยันมาตลอดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลุงพลก็สมัครไปพบเข้าเครื่องจับเท็จตามหลักวิทยาศาสตร์ ผลการเข้าเครื่องจับเท็จ ปรากฎว่าไม่พบความผิดปกติ ไม่มีอาการจิตวิปริต ฟั่นเฟือน ถึงขนาดจะต้องทำขั่วช้าเลวทราม 

ส่วนที่ว่าการสูญเสียครั้งนี้ มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ เราก็พยายามหักล้างว่า ลุงพล-ป้าแต๋น ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย จุดที่หักล้างมากที่สุด คือ ถ้าหาก ลุงพล อุ้ม น้องชมพู่ ก็จะต้องพบดีเอ็นเอในเสื้อผ้าที่น้องใส่ และถ้าลุงพลเคลื่อนย้ายร่างน้องชมพู่ก็ต้องพบดีเอ็นเอในร่างของน้อง

ทนายตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ที่สุนัขนำไป ก็เป็นได้ว่า น้องชมพู่ สนิทสนมกับสุนัขที่เลี้ยงชื่อ ปลาส้ม อาจจะวิ่งตามสุนัขวิ่งตามออกไปแล้วทำให้สุนัขทิ้งน้องชมพู่ไว้กลางทาง ทิ้งไว้ในป่าแต่สุนัขวิ่งหนีกลับลงมาก่อนทำให้น้องชมพู่ผจญภัยอยู่คนเดียวเดินไปเรื่อยๆ บนภูเหล็กไฟที่ไม่มีบ่อน้ำและการเดินไปเรื่อยๆ ไม่มีน้ำ มีอาหาร 3 วัน ก็เสียชีวิต 

เป็นไปได้หรือไม่ที่น้องจะไปเองบุคคลที่จะประหัดประหารฆ่าแกงกัน มันต้องมีการจัดผลประโยชน์ แย่งที่ทำมาหากินกัน ขัดเเย้งชิงอำนาจ หรือเรื่องกามรมณ์ ตรงกันข้ามโจทก์ร่วมทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน วันเกิดเหตุยังไปวัดที่ดินทำกินด้วยกัน วันเกิดเหตุก็ยังอยู่ด้วยกัน