'ศรีริต้า' ร่ำไห้ดีใจ ศาลสั่งจำคุก 12 ด. ปรับ 6 หมื่น มือแชร์คลิปตัดต่อลามก

25 ต.ค.2566 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ดารานางแบบชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง มือดีนำคลิปที่ถูกตัดต่อเชิงอนาจารเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และได้รับความเสียหาย เป็นจำเลยในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดลหุโทษ 
   

ซึ่งวันนี้  น.ส.ศรีริต้า พร้อมด้วยนายกรณ์ ณรงค์เดช สามี และน.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา หลังดำเนินคดีมา 2 ปี 3 เดือน 18 วัน 

 

 

 

 

ทนายนิด้า เปิดเผยว่า ศาลพิพากษาว่าพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14(4)(5) ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท , ตาม ประมวลกฎหมายอาญา ม. 328 ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท , ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.397 ลงโทษปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 121,000 บาท

 

จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 12 เดือน และปรับ 60,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิด และจำเลยยังได้วางเงินชดใช้ค่าเสียหายก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา โดยให้รายงานตัวพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งใน 1 ปี ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และให้จำเลยลบ ทำลาย ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 15 วัน และโฆษณาคำขออภัยผ่านทางเฟซบุ๊กของโจทก์เป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย

 

 

 

 

สำหรับ คู่กรณีมีจำนวน 1 คน และเป็นการส่งต่อข้อมูลและ สื่อลามกอนาจาร โดยคู่กรณีไม่ได้เป็นคนตัดต่อคลิปขึ้นมาเอง ซึ่งตลอดเวลาที่มีกรณีดังกล่าว ทางคุณศรีริต้าออกมาปฏิเสธมาโดยตลอด  แต่จำเลยก็ยังมีการส่งต่อก็ยังถือว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน ซึ่งทางทนายนิด้า ได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีถึงสาเหตุที่ทำ จำเลยก็ตอบว่าไม่ได้ตั้งใจทำไปด้วยความคึกคะนอง เมื่อมีหมายศาลไปก็ทำให้สลดกันทุกคน จึงอยากให้ คนที่ทำแบบนี้ตระหนักได้แล้ว อย่างคุณริต้าเองวันนี้ที่ต้องมาศาลก็ต้องเสียทั้งเวลาทั้งเงิน แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

 

 

 

 

ด้าน น.ส.ศรีริต้า กล่าวขอบคุณศาลและขอบคุณทนายนิดาที่วันนี้ตนได้รับความเป็นธรรม ยอมรับว่าตนเองลำบากใจเพราะไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน และไม่ได้ทำด้วยความโกรธแค้น แต่ตนเองไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าวได้ ที่ตัดสินใจดำเนินคดี เพื่อปกป้องชื่อเสียงศักดิ์ศรีของตัวเอง ปกป้องครอบครัว โดยเฉพาะลูก ตนเองไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงที่เข้ามาบั่นทอนชีวิตของตนเองและชื่อเสียงเป็นอย่างมาก 
 

ทั้งนี้ ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง เป็นบทเรียนว่าการกระทำแบบนี้สามารถเข้าไปทำลายชีวิตคนอื่นได้จริงๆ อยากให้คิดก่อนทำ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจหรือด้วยความคึกคะนอง  อยากให้ฉุกคิดว่ามันจะไปสร้างผลกระทบต่อชีวิตคนอื่น และทำลายชีวิตใครหลายๆ คน

 

 

 

ตามที่เราเห็นข่าวทุกวันนี้จากอาชญากรรมไซเบอร์ ที่ทำลายทั้งชื่อเสียงและทรัพย์สินอย่างตนเองเป็นต้น เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น ตนอยากให้สังคมรู้ว่าบ้านเมืองมีกฎหมายมีศาล ยิ่งทำให้ไม่สามารถเพิกเฉยกับเรื่องดังกล่าวได้จริงๆ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนตัดต่อ แต่วันนี้รู้ว่าใครเป็นคนแชร์คลิป ทั้งทั้งที่ปฏิเสธแล้วว่าไม่ใช่ตนเองแต่ก็ยังแชร์อยู่ 
   

 

 

เมื่อได้เจอคู่กรณีในศาล และบอกแต่วันแรกแล้วว่าเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ตนเองจะนำไปทำบุญทั้งหมด เพียงแค่อยากให้คู่กรณีได้รับบทเรียนจากการกระทำ และตลอดระยะเวลา 2 ปี เรื่องนี้ติดในใจตนเองอยู่ตลอด ตนเองทำงานตั้งแต่อายุ 13 ปี ทำงานด้วยความทุ่มเท และอยู่ดีๆ ก็มีคลิปตัดต่ออนาจารเป็นตนเอง มันบั่นทอนจิตใจเป็นอย่างมาก มากกว่าที่ใครหลายคนจะเข้าใจได้ โดยเฉพาะวันนี้ตนเองมีลูก ไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเกิดคำถาม ตนเองเลยอยากให้มันชัดเจนตั้งแต่วันนี้ว่ามันไม่ใช่เรา

 

ทั้งนี้ยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้ตนเองเสียโอกาสเสียชื่อเสียงสร้างความเดือดร้อน จึงอยากฝากไปถึงคนที่ทำแบบนี้ว่าทุกอย่างมันมีผลกระทบ และยอมรับว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก

 

ด้าน นายกรณ์ สามี ศรีริต้า กล่าวว่า วันนี้ดีใจกับภรรยาและขอบคุณกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกข์ใจหนักใจมาโดยตลอด หากหลายคนจำได้ตอนที่เกิดเรื่องดังกล่าวเป็นตอนที่ภรรยากำลังตั้งท้องซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรง และตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการวางตัวดีมา โดยตลอดไม่เคยมีข่าวเสื่อม วันนี้จะได้เคลียร์ให้ชัดว่าผู้หญิงที่อยู่ในคลิปเป็นการตัดต่อไม่ใช่ภรรยา และถือว่าได้เคลียร์ชื่อเสียงได้ 100%