'สืบนครบาล' รวบ หมวย โพธิ์แท่น เปิด 15 'บัญชีม้า' หลอกขายสินค้าออนไลน์

19 ต.ค. 2566 ตำรวจสืบสวนนครบาล  พร้อมด้วย ชุด PCT 5 สอบสวนขยายผลจากการร้องเรียนจากประชาชน ผ่านเพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยติดตามจับกุม ตัวผู้ใช้นาม "หมวย โพธิ์แท่น" มีพฤติการณ์แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ขายสินค้าประเภทหนังสือหายาก หนังสือกฎหมาย หนังสือติว จอคอมพิวเตอร์ อะไหล่โทรทัศน์ ฯลฯ เมื่อมีผู้โพสต์ว่าสนใจต้องการสินค้าประเภทใด คนร้ายจะทำทีทักไปหาเจ้าของโพสต์ทางอินบ็อกซ์  และนำเสนอขายสินค้า โดยหลอกตกลงราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานตามท้องตลาด เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน ก็จะทำนิ่งเฉย ไม่ส่งสินค้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายหลายรายตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายหลายหมื่นบาท 
 

 

 

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5   สืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว 
            

 

 

 

ต่อมา ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุหลอกลวงประชาชนรายนี้ คือ น.ส.มะลิวัลย์ (สงวนนามสกุล) จึงเฝ้าติดตามจับกุมตัว น.ส.มะลิวัลย์ ได้ที่บริเวณ หมู่ 2 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี  จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.มะลิวัลย์  เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ หมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ"

 

 

 

 

 

โดยในชั้นจับกุม น.ส.มะลิวัลย์ หรือ  หมวย โพธิ์แท่น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า สามีของตนชื่อนายจักรกฤษ หรือเล็ก  เป็นผู้ขอยืม และนำบัญชีธนาคารของตนไปใช้ และยังใช้ให้ตนเปิดบัญชีธนาคารผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารต่างๆ รวมกว่า 15 บัญชี 

 

โดยบัญชีธนาคารที่เปิด นายจักรกฤษ สามี  นำไปใช้เป็นบัญชีรับเงินที่ได้จากการหลอกขายสินค้า ที่มีผู้เสียหายโพสต์ว่าต้องการอยากได้อยากซื้อในกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่นายจักรกฤษ เข้าไปแอบแฝงกว่า 200 กลุ่ม
      

 

 

 

ต่อมา นายจักรกฤษ ได้เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ให้การรับสารภาพว่าตนเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ ในการแฝงตัวเข้าไปหลอกผู้เสียหายในกลุ่มต่างๆ กว่า 200 กลุ่ม จำนวน 12 บัญชี  เงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายนำไปใช้จ่ายใจครอบครัว 

 

และจากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.มะลิวัลย์ ยังพบว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 2 คดี ประกอบด้วย

1. ปี 2560 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) ” ท้องที่ สภ.วิหารแดง 

 

2. ปี 2566 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สภ.สามร้อยยอด ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์
 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
     
นอกจานี้  พล.ต.ต.ธีรเดช  ยังได้แจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่าปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคม

 

และปัจจุบันอัตราโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า  มีโทษหนัก จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) ส่วนผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ