ดีเอสไอ ลุยค้น 5 จุด ยึดหลักฐานเพียบ โยง 'ฮั้วประมูล' เครือข่าย 'กำนันนก'

18 ต.ค. 2566  กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (กองคดีฮั้วประมูลฯ)  กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดปฏิบัติการลุยค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม กรณี บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ประมูลโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม ต.ลำลูกบัว และโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว-บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 และโครงการอื่นที่มีความผิดเกี่ยวพันกัน โดยมีข้อสงสัยว่าน่าจะเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เป็นคดีพิเศษที่ 82/2566

 

 

 

 

โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีฮั้วประมูลฯ มีเหตุอันควรสงสัยว่า บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้สถานที่ดังกล่าวข้างต้น ในการกระทำความผิด และน่าเชื่อว่ามีทรัพย์สิน เอกสาร สิ่งของหรือข้อมูลในโทรศัพท์ หรือในระบบคอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ได้เก็บอยู่ที่บ้านพักอาศัยและสถานประกอบการ

 

 

 

 

จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ทำการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 5  แห่ง โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  นำกำลัง กองคดีฮั้วประมูลฯ  เปิดปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนและสะกดรอย เจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการพิเศษ  เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าตรวจค้น 5 จุด ดังนี้ 

 

 

 

 

 

 

1. บ้านของนางพร (นามสมมุติ) อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 8 เครื่อง และเอกสารการเคลื่อนไหวทางบัญชี สมุดบันทึก

2. ร้านของนายอ้วน (นามสมมุติ) อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 3 เครื่อง และสมุดบันทึกซึ่งปรากฏหมายเลขบัญชีธนาคารและชื่อบัญชี

3. บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ตรวจยึดเอกสารสัญญาจ้างที่มีมูลค่างานตั้งแต่ 30 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ จำนวน 20 แฟ้ม

​​4. บริษัท เวฬา จำกัด อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ตรวจยึดเอกสาร จำนวน 5 รายการ

5. บ้านของภรรยานายหน่อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง

 

 

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ จะได้นำพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้นไปทำการเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป หากพบว่ามีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด