หนุ่มอุดรธานีเปิดใจ 'โดนระเบิดฮามาส' เลือดออกเต็มตัว

  วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไป บ้านอยู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เพื่อไปพบ นายณัฐพงษ์ ดวงจันทร์ หรือหนุ่ย อายุ 35 ปี แรงงานไทยที่หนีภัยสงครามจากอิสราเอลกลับมาบ้านเกิดท่ามกลางบรรดาญาติพ่อแม่พี่น้องโอบกอดด้วยความรักและห่วงใย หลังจากที่เดินทางไปทำงานนานกว่า 4 ปี     ได้ญาติพี่น้องได้มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับตามประเพณีของชาวอีสานเรียกขวัญกลับบ้าน ด้วยการผูกด้ายสีขาวบนข้อมือ แล้วร้องเรียกขวัญ มาเด๊อ ขวัญเอ๊ย เพื่อให้ขวัญของนายหนุ่ยกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากฝ่าดงปืนดงระเบิดหนีตายกลับเมืองไทยมา

นายหนุ่ย เปิดใจว่า ดีใจมากที่ได้กลับมายังบ้านเกิด รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ภาพเหตุการณ์เช้าวันเสาร์ที่ตนเองถูกระเบิดยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืม ตนเองอยู่ที่โมชาฟเนติฟฮาซาร่า กลุ่มฮามาสบุกเข้ามาตอนเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันหยุด ขณะนอนพักผ่อนในห้องพัก เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น แง้มหน้าต่างออกมาก็เห็นคนยิงกัน ขณะกำลังจะไปบังเกอร์หลบภัย ปรากฎว่าเสียงระเบิดตูม ลงข้างๆ ห้องพอดี เสียงดังจนหูอื้อ และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด บริเวณโหนกแก้มและขาซ้าย เลือดไหลออกจำนวนมาก ตั้งสติได้ก็เปิดประตูวิ่งไปหลบที่หลุมหลบภัย และพบว่าด้านนอกมีคนแรงงานไทนที่เสียชีวิตอยู่ด้วย

 หนุ่ยบอกว่า ไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอด เพราะเลือดออกมาก ตนเองต้องนอนจมกองเลือดอยู่ในหลุมหลบภัย 1 วัน 1 คืนเต็ม เพราะเมืองถูกปิด และมีการสู้รบกันทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นคิด คิดถึงแต่หน้าพ่อหน้าแม่ เจ็บปวดมาก เพราะเสียเลือดมาก ดีที่เพื่อนช่วยซับเลือดช่วงที่หลบในหลุมหลบภัย วันต่อมาคนไทยที่อยู่ที่นั่น ฝ่าดงปืนและระเบิดช่วยพาลงส่งรักษาโรงพยาบาล ดีใจที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ที่นั่นโหดร้ายมาก คงไม่กลับไปอีก

นางจันทร์เพ็ญ ดวงใจ อายุ 62 ปี แม่ของหนุ่ย บอกว่า รู้ข่าวจากลูกวันที่ 7 โดยลูกส่งภาพและข้อความมาหาแม่ว่า ลูกถูกสะเก็ดระเบิด เมื่อเห็นแบบนั้นทำอะไรไม่ถูก ตกใจมาก คิดไปต่างๆ นานา ว่าลูกจะเป็นแบบนั้นจะเป็นแบบนี้ ตนเองได้แต่ให้ญาติพี่น้องช่วยประสานงานติดต่อให้ว่า ลูกมีความเป็นอยู่และปลอดภัยหรือไม่ อย่างไร เห็นภาพลูกบาดเจ็บ กินไม่ได้นอนไม่หลับจนแน่นหน้าอก เมื่อลูกได้รับการช่วยเหลือก็รู้สึกดีใจ ต้องขอขอบคุณ คุณแจ่ม ที่พาไปส่งโรงพยาบาล ตอนลูกถูกระเบิดก็บนปู่ฟ้าขื่นซึ่งเป็นปู่หลักบ้าน ขอให้ช่วยเหลือลูกหลาน ไปบนปู่ตอนเช้า ตกบ่ายมาก็ได้รับข่าวว่ามีคนไปช่วยลูกชายแล้ว 4 ปีที่ลูกจากไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง ตอนนี้เห็นหน้าเห็นตัวเป็นๆ คงไม่ให้ไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว