ข่าว

'สืบนครบาล' รวบ 2 ผัวเมีย 'บัญชีม้า' แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สืบนครบาล" รวบ "เอส บางกระสอ-ภัทร ลำโพ" 2 ผัวเมียรับจ้างเปิด "บัญชีม้า"ให้ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่

13 ต.ค. 2566 ตำรวจศูนย์ปราบปรามเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตร. PCT ร่วมกับ ตร.ชุดลาดตะเวนออนไลน์ บก.สส.บชน. หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านเพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยติดตามจับกุม นายเอสนะ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชนด้วยการโทรศัพท์หาผู้เสียหาย และสวมรอยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ออกอุบายหลอกผู้เสียหายว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต และยังไม่ได้ชำระ และมีความเกี่ยวกับคดีฟอกเงิน 
 

 

รวบ 2 ผัวเมียบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่

 

และยังแจ้งให้ผู้เสียหายเดินทางไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แต่หากผู้เสียหายไม่สะดวก จะให้ผู้เสียหายแอดไลน์ที่สร้างขึ้น ก่อนส่งต่อให้อีกสายที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เสนอว่าจะช่วยเหลือผู้เสียหายเรื่องหนี้บัตรเครดิต โดยให้โอนเงินจากบัญชีธนาคารไปเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์และหากผู้เสียหายไม่ได้กระทำผิดจะโอนเงินคืนกลับไปให้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ภายหลังก็ไม่ได้รับเงินคืนและติดต่อไม่ได้อีกเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายเฉพาะรายที่ร้องเรียนกว่า 50,000 บาท   

             

 

รวบ 2 ผัวเมียบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่

 

 

นอกจากนี้ ยังมีการสร้างบัญชีไลน์ปลอมขึ้นมาโดยอ้างตัวว่าเป็นนายทหารยศพันเอก โดยมีการแสดงบัตรประชาชน บัตรข้าราชการทหารที่ทำปลอม ทักมาทางไลน์ ทำทีจะขายเรือไฟเบอร์กลาสติดเครื่องยนต์ รถจักรยานยนต์เวสป้า มือสอง บ้านน็อคดาวน์ รถยนต์มือสอง เมื่อตกลงราคากันจนเป็นที่พอใจแล้ว คนร้ายจะทำทีแจ้งกำหนดนัดรับสินค้ากับผู้เสียหาย จากนั้นจะขอให้ผู้เสียหายโอนเงินมัดจำก่อนจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้แล้วและไปตามจุดที่นัดหมายรับสินค้า ปรากฎว่าไม่พบตัวผู้ขายและไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้อีก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย 

 

 

รวบ 2 ผัวเมียบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนและจับกุมตัว นายเอสนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 562/2565 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2565  และ น.ส.ภัทรศนีย์ ผสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบรี ที่ 1329/2565 ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2565  ความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"


จากการตรวจสอบประวัตินายเอสนะ พบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 5 หมายจับ และสถานะคดีอยู่ระหว่างรอออกหมายจับ จำนวน 4 คดี  รวม 9 คดี ประกอบด้วย 

1.ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ” ตามเลขคดี สภ.เมืองนนทบุรี ที่ 182/2555 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ

 

2.ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาฉ้อโกง,ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ตามเลขคดี สภ.ศรีราชา ภ.จว.ชลบุรี ที่ 576/2565 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ

 

3.ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาฉ้อโกง,ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ตามเลขคดี สน.วังทองหลาง ที่ 933/2565 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ 

 

4.ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของ ประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ” ตามเลขคดี สภ.เมืองลำปาง ที่ 1706/2565 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ

 

5.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 562/2565 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.บ้านบึง ภ.จว.ชลบุรี 

 

6.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 395/2565 ลงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก

 

7.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่ จ.9/2566 ลงวันที่  มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ” ท้องที่ สภ.เมืองพะเยา 
 

8.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.219/2566 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.ช้างเผือก
 

9. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมแพ ที่ จ.92/2566 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" ท้องที่ สภ.ชุมแพ

และนายเอสนะ ยังเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด , ฉ้อโกง, ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , คดีเกี่ยวกับการพนัน และคดีที่ยังต้องการตัว อีกรวม 11 คดี 

 

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2  ถูกจับกุมได้ภายในซอยเปี่ยมสุข ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  หลังตำรวจซุ่มเฝ้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง โดยในชั้นจับกุม นายเอสนะ และ น.ส.ภัทรนีย์ ให้การรับสารภาพ ว่าประมาณต้นปี 2564 มีคนรู้จักมาจ้างให้ตนทั้งสองไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ ของทุกธนาคาร โดยได้ค่าจ้างเปิดบัญชีคนละ 2,000 บาท  โดยอ้างว่าจะนำบัญชีที่เปิดไปใช้เกี่ยวกับโต๊ะพนันฟุตบอล โดยเงินที่ได้จากค่าจ้างเปิดบัญชีนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและซื้อยาเสพติดมาเสพ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ