ข่าว

เปิดกฏเหล็ก พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 ตั้ง 'ผบ.ตร.' คำนึงอาวุโส ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 แต่งตั้ง 'ผบ.ตร.' ต้องคำนึงถึงอาวุโส ความรู้ความสามารถ ขณะที่การแต่งตั้ง 'พล.ต.อ.ต่อศักดิ์' นั่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ข้าม รอง ผบ.ตร. ถึง 3 นาย 'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์' ร้องเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ

5 ต.ค. 2566 ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. นั่งหัวโต๊ะเคาะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 4  เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นการข้ามลำดับอาวุโสอีก 3 นาย คือ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1, พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 2 และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 3
 

ในที่ประชุมแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ วันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเห็นชอบ 9 ต่อ 1 ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 ส่วนอีก 1 ท่านไม่เห็นชอบคือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร.

 

งดออกเสียง 2 ท่านคือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  และ รศ.ประทิต สันติประภพ อดีตรองอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.อัสสัมชัญ

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช.

 

 

 

การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่ผ่านมา ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เดินทางไปยื่นเรื่องกับ  ป.ป.ช. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ก.ตร.  ทั้ง 10 ท่าน ที่เห็นชอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร. ซึ่งเป็นการขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 258 ง.(4) ซี่งมีหลักว่า การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เป็นการผิดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 78 (1)

 

 

"คมชัดลึกออนไลน์" เปิดข้อมูลเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 77 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งให้แต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ (1) ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจเอก ซึ่งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77(1)(2)(3)(4)(5)(6) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

 

 

 

การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1)ให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อพนักงานตำรวจผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 77(1) โดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม เสนอ ก.ตร.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประชุม ก.ตร.

 

 

 

ทั้งนี้ ตามเจตนารมย์ของกฎหมายต้องการให้แต่งตั้งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้คำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน หมายความว่าให้น้ำหนักอาวุโสต้อง 50% และความรู้ความสามารถอีก 50% อย่างละเท่าๆกัน ดังนั้นคณะกรรมการที่พิจารณาต้องเอาอาวุโสขึ้นพิจารณาก่อนโดยแบ่งเป็นคะแนนอาวุโสกับความรู้ความสามารถอย่างละ 50% เท่าๆกัน 

 

 

 

เมื่อเรียงอาวุโสแล้วใครอาวุโสสูงสุดในระดับพลตำรวจเอกด้วยกัน ตั้งแต่จเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจ เมื่อเรียงอาวุโสแล้วใครอาวุโสสูงสุดคนที่อาวุโสสูงสุดก็จะได้คะแนนเต็ม 50% ส่วนคนที่รองลงมาก็เฉลี่ยลงมาว่าจะได้กี่% โดยเอาคนอาวุโสสูงเป็น 100% โดยนับจากคนที่อาวุโสสูงสุดกับอายุราชการด้วยก็จะได้คะแนนเต็ม 50% ส่วนคนที่รองลงมาก็เฉลี่ยลงมาว่าจะได้กี่ % โดยเอาคนที่ได้ 50% เต็มคิดเป็น 100%

 

 

 

โดยนับอาวุโสกับระยะเวลาอายุราชการและคำนวณสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ออกมา ส่วน 50% หลังให้พิจารณาแบ่งเป็น 5 สายงาน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้พิจารณาแต่ให้คะแนนประสบการณ์งานสืบสวนสอบสวนและงานปราบปรามเป็นหลักมากกว่าคะแนนด้านอื่น เพราะมาตรา 78(1) เน้นคำว่าโดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม แต่ในสายงานอื่นก็ต้องมีคะแนนด้วย การกำหนดคะแนนต้องกำหนดให้เกิดความเป็นธรรม

 

พ.ร.บ.ตำรวจ 2565

 

 

 

การกำหนดเกณฑ์มาตรฐานไว้ เช่น งานสืบสวน 12 คะแนน งานสอบสวน 12 คะแนนงานป้องกันปราบปราม 12 คะแนน งานที่เหลืออีกสองด้านด้านละ 7 คะแนน เป็น 14 คะแนน รวมเป็น 50 คะแนน ให้มีการกำหนดช่วงห่างการให้คะแนน ต้องกำหนดไว้เลยว่าถ้าใครผ่านงานชนิดใดมามากน้อยเท่าใดแล้วจะได้คะแนนมากน้อยเท่าใดแต่ถ้าใครไม่ผ่านงานด้านใดมาเลยต้องไม่มีคะแนน เป็นการกำหนดกรอบการให้คะแนนไว้เพื่อป้องกันการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจของคณะกรรมการ คัดเลือก เพื่อไม่ให้คะแนนของผู้เข้ารับการคัดเลือกแตกต่างกันอย่างมาก ความรู้ความสามารถ 50% ถ้าให้ 50 คะแนน ควรให้ทุกสายงานเท่ากัน เพราะผู้บริหารควรมีทุกอย่าง ป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวน บริหารมั่นคงและกิจการพิเศษกฎหมายและคดี

 

 

 

ดังนั้น  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พร้อมด้วย ทนายอนันต์ชัย ยังเห็นว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในครั้งนี้ อาจเข้าข่ายความผิด ม.112 อีกด้วย หลังจากนี้เตรียมเดินหน้าผิดบุคคลที่เป็นผู้เสนอทูลเกล้ารายชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ